โดจคอยน์(DOGE) พุ่ง 9% หลังเกิดสัญญาณ ‘โกลเดน ครอส’ ลุ้นแนวโน้มขาขึ้นเดือนกรกฎาคม

ราคาของโดจคอยน์(DOGE) กำลังแสดงสัญญาณเชิงบวก หลังจากกราฟราคาย่อยรายชั่วโมงปรากฏสัญญาณ ‘โกลเดน ครอส’ ซึ่งมักถูกตีความว่าเป็นเครื่องบ่งชี้การเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น นักลงทุนจึงเริ่มคาดหวังถึงโอกาสการพุ่งขึ้นของราคาในช่วงเดือนกรกฎาคม ‘โกลเดน ครอส’ เกิดขึ้นเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น เช่น 50 ชั่วโมง ตัดผ่านเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวอย่าง 200 ชั่วโมงขึ้นไปด้านบน ถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเทคนิคที่สำคัญซึ่งมักจะสะท้อนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของราคาอย่างมีนัยสำคัญ

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของโดจคอยน์นับว่าเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศการฟื้นตัวของตลาดคริปโตโดยทั่วไป โดยเฉพาะเมื่อ *บิตคอยน์(BTC)* เพิ่งทะยานแตะจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ก็ส่งผลให้ความชอบความเสี่ยงของนักลงทุนกลับมาเพิ่มขึ้น และแนวโน้มดังกล่าวได้กระตุ้นแรงซื้อใน *โดจคอยน์* อย่างชัดเจน

ข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า ปัจจุบันราคาของโดจคอยน์พุ่งขึ้นแตะระดับ $0.1749 หรือราว 242 บาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 9% ภายในวันเดียว ทำให้สามารถลบการขาดทุนบางส่วนจากเดือนก่อนหน้าได้สำเร็จ พร้อมกันนี้ โดจคอยน์ยังไต่อันดับขึ้นเป็นคริปโตที่มีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และความสนใจจากนักลงทุนก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ปัจจัยมหภาคก็ช่วยเสริมมุมมองในเชิงบวกเช่นกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) แสดงท่าทีผ่อนคลาย ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต ความคาดหวังต่อดอกเบี้ยที่ลดลงมักถือเป็นแรงหนุนที่ดีต่อทรัพย์สินเสี่ยงรวมถึงตลาดคริปโต

ในแง่ของประวัติศาสตร์ราคา โดจคอยน์มีทิศทางผันผวนในเดือนกรกฎาคมของแต่ละปี โดยในปี 2021 ราคาปรับลดลง 18.18% แต่ในปี 2023 กลับพุ่งขึ้น 17.19% ส่วนในปีนี้ ณ ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ราคาปรับตัวขึ้นแล้วกว่า 5.53% บ่งชี้ถึงแนวโน้มเชิงบวกอีกครั้ง

แม้กระนั้น ความไม่แน่นอนในระยะสั้นก็ยังคงอยู่ โดยการเคลื่อนไหวของโดจคอยน์ในอนาคตอาจขึ้นอยู่กับแนวโน้มโดยรวมของตลาดคริปโต ความต้องการเชิงเก็งกำไรของนักลงทุนรายย่อย รวมถึงกระแสความนิยมในโซเชียลมีเดีย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลต่อราคาของเหรียญที่ถือเป็นมีมคอยน์ ซึ่งมีความผันผวนโดยธรรมชาติ

*ความคิดเห็น*: การที่โดจคอยน์สามารถรักษาโมเมนตัมเชิงบวกนี้ไว้ได้หรือไม่ อาจต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของคริปโตหลักอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* ว่าจะยืนระยะในขาขึ้นได้แค่ไหน ทั้งนี้ การเกิด ‘โกลเดน ครอส’ ครั้งนี้จะเป็นเพียงสัญญาณเทคนิคธรรมดา หรือจะกลายเป็นแรงผลักดันที่แท้จริงของแนวโน้มขาขึ้น คงไม่ต้องรอนานอีกต่อไปจึงจะได้คำตอบ