*โดจคอยน์(DOGE)* สกุลเงินดิจิทัลสาย *มีม* ชื่อดัง ยังเดินหน้าสร้างความหวังแก่ผู้ถือครอง ด้วยแนวโน้มที่เริ่มกลับตัวขึ้นในระยะสั้น โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา โดจคอยน์ปรับตัวขึ้นกว่า 5% ซึ่งล่าสุดก็มีความพยายามฝ่าด่านราคา ‘แนวต้านรายวัน’ ทำให้ตลาดจับตามองว่าเหรียญนี้จะสามารถเดินหน้าต่อได้หรือไม่
เมื่อวันที่ 29 ตามเวลาท้องถิ่น โดจคอยน์บวกขึ้น 0.88% จากวันก่อนหน้า ปิดที่ 0.1647 ดอลลาร์ หรือราว 229 บาท คิดเป็นผลตอบแทนรายสัปดาห์ที่ 5.24% แม้จะไม่ได้พุ่งแรงแบบฉับพลัน แต่สัญญาณทางเทคนิคกำลังเริ่มสะท้อนแนวโน้มที่เป็นบวกบางประการ
ราคาได้พยายามทะลุ ‘แนวต้านสำคัญ’ ที่ 0.1650 ดอลลาร์ถึงสองครั้งติดต่อกัน โดยหลังจากทะลุได้ช่วงสั้น มูลค่ากลับถูกกดลงจนเกิดภาวะ ‘หลอกทะลุ’ (*false breakout*) อย่างไรก็ตาม หากราคายังคงยืนปิดเหนือระดับ 0.1650 ดอลลาร์ได้ ก็มีโอกาสสูงที่โดจคอยน์จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 0.1680 ดอลลาร์ (ประมาณ 233 บาท)
ในแง่มุมของภาพรวมระยะกลาง โดจคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวแบบ ‘ไซด์เวย์’ อยู่ในกรอบแคบ โดยไม่มีสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้มที่ชัดเจน ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาพรวมระยะกลางคือ *ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง* ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะที่ทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขายยังไม่สามารถยึดครองทิศทางของตลาดได้อย่างชัดเจน
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์เหรียญ *CoinStat* ชี้ว่า จุดราคาปัจจุบันควรใช้วิธีการ ‘รอดู’ มากกว่าการคาดหวังแรงซื้อหรือขายเพิ่มขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญให้ *“ความคิดเห็น”* ว่า “แม้ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณซื้อที่ชัดเจน แต่หากสามารถฝ่าระดับราคาสูงสุดประจำสัปดาห์ได้ ก็อาจเรียกแรงซื้อระยะสั้นกลับเข้ามาในตลาด”
ในฐานะหนึ่งใน ‘มีมคอยน์’ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดจคอยน์มักถูกใช้เป็นดัชนีวัด ‘ความรู้สึกของนักลงทุน’ (sentiment indicator) ควบคู่ไปกับสินทรัพย์หลักอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* แม้ราคาหรือปริมาณซื้อขายของโดจคอยน์จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตในภาพรวมโดยตรง แต่ก็มักใช้เป็นแนวทางเสริมในการกำหนดกลยุทธ์ของนักลงทุนรายย่อย
สำหรับภาวะปัจจุบัน จังหวะการลงทุนอาจเหมาะสำหรับท่าที ‘ระมัดระวัง’ มากกว่าการตามหาผลตอบแทนจากการพุ่งขึ้น นักลงทุนควรจับตาระดับ *แนวรับและแนวต้าน* ที่มีนัยสำคัญอย่างใกล้ชิด และควรรอให้ราคาเคลื่อนผ่านจุดสำคัญเหล่านี้ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์จากเชิงรับเป็นเชิงรุก
ความคิดเห็น 0