บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะ 108,000 ดอลลาร์ หลังเจอแรงขายทำกำไร—นักวิเคราะห์เตือนปรับฐานหากหลุดแนวรับ

บิตคอยน์(BTC) ปรับตัวลดลงมาที่ระดับประมาณ 108,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15.01 ล้านบาท) หลังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 110,000 ดอลลาร์ (ราว 15.29 ล้านบาท) ได้สำเร็จ โดยนักเทรดสายเทคนิคในระยะสั้นเริ่มขายทำกำไรกันมากขึ้น ส่งผลให้ราคาถอยกลับ แนวโน้มดังกล่าวยืนยันโดยนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังอย่างแดน คริปโต เทรด(Daan Crypto Trades) ที่โพสต์ผ่าน X (ชื่อเดิมคือ Twitter) ว่า “หากบิตคอยน์สามารถปิดตลาดรายวันเหนือระดับ 110,000 ดอลลาร์ได้ จะถือว่าเป็นสัญญาณบวก แต่ถ้าราคาหลุดต่ำกว่า 108,000 ดอลลาร์ อาจเข้าสู่ช่วงการปรับฐานอย่างจริงจัง”

แม้ราคาจะเผชิญแรงขาย แต่ยังมีมุมมองในแง่บวกจากบางฝ่าย โดยเฉพาะจากคำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งอาจกลายเป็น ‘จุดเปลี่ยนใหม่’ ของตลาดคริปโต ความคาดหวังส่วนหนึ่งอยู่ที่ข้อเสนอของทรัมป์ที่เรียกว่า ‘กฎหมายที่สวยงามยิ่งใหญ่’ หรือ ‘Big Beautiful Bill’ ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้จ่ายทางการคลังระดับสูง หากเกิดขึ้นจริง นักลงทุนบางรายเชื่อว่าจะเป็นตัวเร่งให้บิตคอยน์ทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งก็มีประวัติศาสตร์สนับสนุนความเห็นนี้อยู่ เช่น ในช่วงปลายปี 2020 หลังจากทรัมป์ลงนามในร่างกฎหมายเยียวยาโควิด-19 ราคาบิตคอยน์ก็พุ่งขึ้นถึงประมาณ 38%

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากสถาบันวิจัยการลงทุนอย่างคัลชี(Kalshi) คาดว่าหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นถึง 40 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 55.6 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2025 ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ 23.2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2020 (ประมาณ 32.2 ล้านล้านบาท) การใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวจึงอาจกลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญสำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ความคิดเห็นจากหลายฝ่ายมองว่า *ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจแบบนี้ ยิ่งส่งเสริมนักลงทุนหันมาหาทางเลือกเช่นคริปโตมากขึ้น*

ตลาดยังมีสัญญาณฟื้นตัวจากการที่บิตคอยน์เริ่มดีดตัวกลับขึ้นจากแนวรับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ นักลงทุนบางส่วนเริ่มกลับมาเชื่อมั่นมากขึ้น ส่งผลให้สินทรัพย์อื่นในกลุ่มอัลต์คอยน์อย่างไบแนนซ์คอยน์(BNB), โซลานา(SOL), เชนลิงค์(LINK) และอาเบ(AAVE) ถูกคาดหมายว่าจะสามารถกลับไปแตะระดับสูงสุดเดิมได้อีกครั้ง ต้องจับตาว่า *การเปลี่ยนแปลงในแนวนโยบายของทรัมป์จะมีอิทธิพลมากน้อยเพียงใดต่อแนวโน้มของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวม*