วอลเล็ตรายใหญ่ของบิตคอยน์(BTC) 2 รายที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมานานกว่า 14 ปีเพิ่งตื่นขึ้นและทำการโอนเหรียญออกจากกระเป๋ามูลค่ากว่า 2.17 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,018 พันล้านวอน เกิดผลกำไรสะสมมหาศาลกว่า *3,198,949%* จากมูลค่าต้นทุนเดิมเพียง 34,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4.7 ล้านวอน
กระเป๋าเงินทั้งสองใบต่างถือครองบิตคอยน์จำนวน 10,000 BTC ต่อใบ โดยการโอนย้ายในครั้งนี้เกิดขึ้นภายในไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง นับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามหลังวอลเล็ตที่มีขนาดใกล้เคียงกันอีก 2 ราย ก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวัน ที่แต่ละรายโอนเหรียญจำนวนเท่ากัน ทำให้ชุมชนคริปโตมีการขยับตัวอย่างฉับพลัน
สิ่งที่น่าสนใจคือ *วิธีการโอน* ที่ไม่ได้ดำเนินแบบการทดลองส่งหรือตามขั้นตอนรักษาความปลอดภัยที่พบได้ทั่วไปในวาฬรายใหญ่ แต่เป็นการย้ายสินทรัพย์ทั้งหมดแบบ *ครั้งเดียวจบ* ไปยังที่อยู่ใหม่ ถือเป็นกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ความเห็นจากวงในชี้ว่าอาจเป็นการจัดระเบียบบัญชีภายในของผู้ถือรายใหญ่ หรือสัญญาณเริ่มเคลื่อนไหวจากบุคคลปริศนา
กระทบต่อ *ความเชื่อมั่นของตลาด* ก็เริ่มปรากฏ โดยราคาบิตคอยน์ที่เพิ่งทะลุ $110,000 (ประมาณ 1.52 พันล้านวอน) ลดลงเหลือราว $108,600 (ประมาณ 1.5 พันล้านวอน) หลังเกิดการเคลื่อนไหวดังกล่าว แม้จะไม่ใช่การลดลงที่รุนแรง แต่ก็เพียงพอให้กระตุ้นความกังวลหมู่ผู้ลงทุน
รวมจนถึงขณะนี้ การโอนเหรียญรวมทั้งหมดอยู่ที่ 40,000 BTC หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านวอน และที่สำคัญคือทั้งหมดดำเนินการนอกระบบของศูนย์ซื้อขายแบบรวมศูนย์(CEX) ผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งคาดว่าอาจเป็นการสับเปลี่ยนตำแหน่งสินทรัพย์ระดับมหภาค หรือการแลกเปลี่ยนภายในกลุ่มวาฬคริปโต
นอกจากนี้ บางฝ่ายยังตั้งข้อสงสัยถึงตัวตนของเจ้าของวอลเล็ตเหล่านี้ แม้กระทั่ง *ชื่อของซาโตชิ นากาโมโตะ* ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาแสดงความคาดเดา อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบสัญญาณว่าเหรียญเหล่านี้จะถูกขายออกในเร็ว ๆ นี้ แต่การตื่นตัวพร้อมกันของกระเป๋าเงินที่หลับไหลมายาวนานเช่นนี้ เป็น *สัญญาณเตือน* ที่บ่งบอกว่าตลาดอาจมีการเคลื่อนไหวใหญ่ในอนาคต
กรณีนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เหรียญในช่วงการขุดยุคแรกที่ยังไม่ถูกรบกวน อาจกลับมามีบทบาทในการกำหนด *ทิศทางใหม่ของตลาด* เมื่อใดก็ได้ สำหรับผู้ลงทุนในคริปโต นี่คือช่วงเวลาที่ต้องใช้ความ *เฉียบคมและสติ* ในการเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0