บิตคอยน์(BTC) ยังคงแสดง ‘แนวโน้มขาขึ้น’ อย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่สองของปีนี้ แม้เผชิญกับความไม่แน่นอนในตลาดการเงินที่เกิดจากร่างกฎหมายการคลังมูลค่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเมื่อวันที่ 4 บิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 108,793 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.95 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าเข้าใกล้ระดับ ‘ราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์’ ก่อนหน้านี้ แม้จะร่วงไปแตะระดับประมาณ 105,000 ดอลลาร์เพียงช่วงสั้น ๆ หลังข่าวการผ่านกฎหมาย แต่ก็ตีกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจากทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 1 และ 3 ตามลำดับ ก่อนที่ทรัมป์จะลงนามในวันชาติสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 4 มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน เช่น การทำให้การลดภาษีส่วนบุคคลจากปี 2017 เป็นการถาวร, ยกเลิกเพดานหนี้ของรัฐ, ย้อนนโยบายขยายเมดิแคด, และยกเลิกการอุดหนุนพลังงานสะอาด
ภายหลังการประกาศกฎหมาย ตลาดคริปโตมีความผันผวนในระยะสั้น แต่หลายฝ่ายมองว่าในระยะยาวอาจส่งผล ‘เชิงบวกต่อบิตคอยน์’ เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐขนาดใหญ่ขึ้นอาจกระตุ้นความวิตกเรื่อง ‘เงินเฟ้อ’ และระดับ ‘หนี้สาธารณะ’ ของสหรัฐฯ ซึ่งมักจะหนุนแรงซื้อในสินทรัพย์ทางเลือกอย่างคริปโต เช่นเดียวกับช่วงปี 2020 ที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19 ทำให้ตลาดคริปโตพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม มุมมองของนักวิเคราะห์ยังคงแตกแยก สแตนดาร์ดชาร์เตอร์คาดการณ์ราคาบิตคอยน์ปลายปีนี้ที่ 200,000 ดอลลาร์ (ราว 7.2 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นท่าที ‘มองบวกอย่างชัดเจน’ ขณะที่อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้งบิทเม็กซ์(BitMEX) แสดงความกังวลว่าราคาอาจปรับฐานลงไปที่ 90,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.24 ล้านบาท) ในระยะสั้น
ในอีกด้าน การที่ข้อเสนอเกี่ยวกับ ‘การผ่อนปรนภาษีคริปโต’ ที่เคยถูกคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในร่างกฎหมายฉบับนี้ กลับถูกตัดออกจากเวอร์ชันสุดท้าย ก็ทำให้ผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มนักขุดและผู้เข้าร่วมกิจกรรมสเตกกิ้ง รู้สึกผิดหวัง อย่างไรก็ตาม การอภิปรายเกี่ยวกับ ‘การถือครองบิตคอยน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ’ ยังคงดำเนินต่อไป
ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งระหว่างทรัมป์และอีลอน มัสก์(Elon Musk) ซีอีโอของเทสลา(TSLA) ก็กลายเป็นประเด็นร้อน มัสก์วิจารณ์กฎหมายดังกล่าวว่าทำลายนโยบายด้านพลังงานสะอาดและบั่นทอนวินัยการคลัง พร้อมทั้งไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ ด้านทรัมป์ก็ตอบโต้ด้วยการระบุว่า มัสก์อาจถูก ‘ขับออกจากสหรัฐฯ’ ได้ สร้างความตึงเครียดบนเวทีการเมืองยิ่งขึ้นไปอีก
แม้ว่าบิตคอยน์จะรักษา ‘ระดับแนวรับทางเทคนิค’ ของราคาที่แข็งแรงได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนถึงความเสี่ยงจาก ‘กฎระเบียบ’, ตัวแปรเศรษฐกิจมหภาค และ ‘ปัจจัยทางการเมือง’ ที่ยังสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตได้อย่างมากในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0