ท่ามกลางภาวะตลาดฤดูร้อนที่เงียบเหงา ตลาดคริปโตยังคงเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบาด้วยความผันผวนที่ซับซ้อน ขณะที่ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนกำลัง ‘จับตารอ’ การเคลื่อนไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ผลักดันร่างงบประมาณ ‘One Big Beautiful Bill’ มูลค่า 3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,726 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพิ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรไปเมื่อไม่นานมานี้ สร้างความหวังให้กับมุมมองเชิงบวกต่อแนวนโยบายสนับสนุนภาคธุรกิจ
รายงานเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่ระบุถึง ‘อัตราการว่างงานที่ต่ำ’ และ ‘การฟื้นตัวของการบริโภค’ ยังช่วยหนุนความเชื่อมั่นของตลาดในทิศทางเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่ายังมี ‘ความเสี่ยง’ แทรกอยู่รอบด้านที่ตลาดไม่อาจมองข้ามได้
ประเด็นสำคัญช่วงสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด), แนวโน้มตลาดพลังงาน, กำหนดการประมูลพันธบัตรสหรัฐจากกระทรวงการคลัง และที่สำคัญที่สุดคือ ‘เส้นตายการหมดอายุของมาตรการยกเว้นภาษีนำเข้าจากจีน’ ในวันที่ 9 ซึ่งถูกจับตามองเป็นพิเศษ โดยยูบีเอส โกลบอล เวลธ์ แมเนจเมนต์ แสดง ‘ความคิดเห็น’ เตือนว่า “หากสหรัฐตัดสินใจเก็บภาษีในอัตราสูงกับทุกประเทศคู่ค้า อาจกระทบต่อตลาดอย่างรุนแรง” อย่างไรก็ตาม หากทรัมป์ตัดสินใจขยายเวลายกเว้นภาษีออกไป ก็อาจส่งผลให้ ‘ความเสี่ยงในตลาดลดลง’ และนักลงทุนกลับมากล้าเสี่ยงอีกครั้ง
กิจกรรมกำหนดการทางเศรษฐกิจก็มีหลากหลาย รายงานการเปลี่ยนแปลงของเครดิตผู้บริโภคจะถูกเผยแพร่ในวันที่ 8 ขณะที่วันที่ 9 จะมีการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กร่วมกับรายงานแนวโน้มพลังงานจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน(EIA) วันที่ 10 ตลาดจะได้รับรู้ ‘รายงานการประชุมล่าสุดของเฟด’ ซึ่งอาจมีผลต่อ ‘ความคาดหวังของนักลงทุน’ ต่อทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยตลาดปัจจุบันประเมินความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมเพียง 4% เท่านั้น และมีแนวโน้มสูงขึ้นในเดือนตุลาคม
กำหนดการออกพันธบัตรของกระทรวงการคลังสหรัฐก็สะท้อนสัญญาณความเคลื่อนไหวที่ตลาดให้ความสำคัญ โดยในสัปดาห์นี้จะมีการออกพันธบัตร 3 ปีมูลค่า 58,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 806,200 ล้านบาท), พันธบัตร 10 ปีมูลค่า 39,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 542,100 ล้านบาท) และพันธบัตร 30 ปีมูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 305,800 ล้านบาท) ซึ่งเป็นจำนวนที่สามารถส่งผลต่อ ‘สภาพคล่องของตลาดตราสารหนี้โลก’ ได้อย่างมีนัยสำคัญ
ในส่วนของตลาดคริปโต เมื่อวันที่ 8 (เวลาท้องถิ่น) ตลาดเคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อย โดยมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 3.44 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 4,782.6 ล้านล้านบาท) ซึ่งยังอยู่ในกรอบแนวรับ-แนวต้านที่เคลื่อนไหวมาแล้วกว่า 2 เดือน บิตคอยน์(BTC) พยายามรีบาวด์โดยทดสอบระดับ 109,500 ดอลลาร์ (ราว 1,520.5 ล้านบาท) ถึงสองครั้งในช่วงเช้า และมีโอกาสจะกลับไปยืนเหนือ 110,000 ดอลลาร์ (ราว 1,529 ล้านบาท) ได้อีกครั้ง ซึ่งห่างจากจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 3 เพียง 2.2% เท่านั้น
ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) พยายามกลับไปยืนที่ระดับ 2,600 ดอลลาร์ (ราว 361.4 ล้านบาท) ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถฝ่าต้านสำคัญได้ ทำให้อ่อนตัวลงตามแรงขาย แม้ว่าจะมีข่าวบวกทางเทคนิคในช่วงก่อนหน้านี้ก็ตาม
โดยรวมแล้ว ความเคลื่อนไหวของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ในเรื่อง ‘นโยบายการค้าต่างประเทศ’ โดยเฉพาะกับจีน จะเป็น ‘ปัจจัยหลัก’ ที่อาจสร้างความผันผวนอย่างรวดเร็วให้กับตลาดคริปโตในระยะสั้น จากการที่ตลาดเริ่มมี ‘การเชื่อมโยงระหว่างนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและสินทรัพย์ดิจิทัล’ ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น นักลงทุนจึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังทั้งบิตคอยน์และอีเธอเรียมอย่างใกล้ชิดในช่วงสัปดาห์นี้
ความคิดเห็น 0