ตลาดคริปโตกลับเข้าสู่ภาวะขาลงอย่างรุนแรงอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน มูลค่าตลาดรวมลดลงจากประมาณ 37,945 ล้านล้านวอน เหลือราว 36,528 ล้านล้านวอน หรือหายไปกว่า 334 ล้านล้านวอนภายในวันเดียว ความวูบครั้งนี้เกิดจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง การเทขายจากนักลงทุนระดับ ‘วาฬ’ และการถูกบังคับขายขนาดใหญ่ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาของบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และอัลต์คอยน์สำคัญอื่นๆ ร่วงตัวพร้อมกัน
*ความตึงเครียดทางทหารระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน* คือปัจจัยกดดันหลักในครั้งนี้ โดยเฉพาะเมื่อมีความเป็นไปได้ว่าทางการสหรัฐฯ อาจเข้ามาแทรกแซง ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเริ่มวิตกอย่างหนัก อีกทั้งท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์ต่อการรีบูตข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ก็ยิ่งเพิ่ม *ความเป็นไปได้ของการปะทะทางทหาร* ในสายตาตลาดการเงินโลก
ราคาของบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงจาก 108,000 ดอลลาร์ เหลือ 103,127 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.47 ล้านบาท ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ ส่วนอีเธอเรียม(ETH) ดิ่งลงเกือบ 10% มาอยู่ที่ 2,456 ดอลลาร์ หรือราว 341,000 บาท โซลานา(SOL) และดอจคอยน์(DOGE) ก็ไม่รอด ต่างร่วงลงเกิน 10% โดยเฉพาะโซลานาซึ่งได้รับผลกระทบหนักจากแรงขายในกลุ่มเทรดเดอร์รายย่อย
อีกปัจจัยสำคัญที่ฉุดตลาดลงคือ *การเทขายของนักลงทุนขนาดใหญ่* หรือ Whales ตามข้อมูลจาก Glassnode นักลงทุนที่ถือบิตคอยน์ระยะ 6-12 เดือน ได้ทำการขายเหรียญรวมมูลค่ากว่า 90 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.25 พันล้านบาทในรอบไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะที่ในช่วงต้นเดือน มิถุนายน มีการขายบิตคอยน์เพื่อทำกำไรรวมมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการเทขายขนาดใหญ่ที่สุดของปีเลยทีเดียว
สถานการณ์ตึงเครียดนี้ต่อเนื่องไปยัง *วิกฤตบังคับขาย* โดยข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่า มีการชำระบัญชี (Liquidation) ตำแหน่งรวมมูลค่ากว่า 530 ล้านดอลลาร์หรือราว 6,967 ล้านบาทภายในวันเดียว และมีเทรดเดอร์มากกว่า 134,000 รายได้รับผลกระทบโดยตรง โดยอีเธอเรียม(ETH) เป็นเหรียญที่ถูกบังคับขายมากที่สุด มูลค่ารวมกว่า 183 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Long Position ที่สูญเสียมากสุดเป็นของบิตคอยน์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 111 ล้านบาท
อัลต์คอยน์จำนวนมากฟื้นตัวยากกว่าบิตคอยน์ โดยบิตคอยน์(BTC) มีการร่วงราว 2% แต่เหรียญอื่นๆ อย่างอีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) ลดลงถึง 10% - 11% ขณะที่ริปเปิล(XRP) ก็ลดลง 1.4% ดัชนี Altcoin Season Index จาก Blockchaincenter อยู่ที่เพียง 22 จุด แสดงให้เห็นว่าตลาดยังคง *เน้นการถือบิตคอยน์เป็นหลัก*
"ความคิดเห็น" มีความเป็นไปได้ว่าความผันผวนในครั้งนี้อาจไม่ใช่เพียงจุดตกระยะสั้น แต่กำลังบอกสัญญาณถึงภาวการณ์เปลี่ยนผ่านของตลาด โดยมีทั้งปัจจัยภายนอกอย่างความขัดแย้งระหว่างชาติ และภายในเช่นการปรับพอร์ตของนักลงทุนใหญ่ เมื่อรวมกับภาวะดอกเบี้ยสูงในปัจจุบัน นั่นอาจเป็นตัวเร่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของคริปโตครึ่งปีหลัง นักลงทุนควรพิจารณาลดเลเวอเรจ และวางกลยุทธ์ป้องกันพอร์ตให้รัดกุมมากขึ้นในระยะนี้
ความคิดเห็น 0