ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวผันผวนอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 17 ตลาดคริปโตทั้งหมดมีมูลค่าตลาดรวมลดลง 0.97% เหลือราว 4,629 ล้านล้านวอน (ประมาณ 3.33 ล้านล้านดอลลาร์) แม้ราคาจะลดลง แต่ปริมาณซื้อขายกลับพุ่งขึ้นถึง 33.5% ภายใน 24 ชั่วโมง สะท้อนให้เห็นถึงการตอบสนองของนักลงทุนอย่างชัดเจน ดัชนี ‘ความกลัวและความโลภ’ อยู่ที่ระดับ 53 บ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงรอดูทิศทางที่ชัดเจนของตลาด
ปัจจัยที่กดดันตลาดอย่างมากในเวลานี้คือ นโยบายดอกเบี้ยของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ซึ่งแม้มุมมองส่วนใหญ่จะเห็นว่า ‘การลดดอกเบี้ย’ ยังไม่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ แต่ตลาดยังคงจับตาสัญญาณทางนโยบายที่อาจเปลี่ยนแนวโน้มได้ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐกลับเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยแนสแด็กปรับขึ้น 1.52%, S&P500 เพิ่ม 0.94% และดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.75% อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์กลับร่วงลงมากกว่า 4% หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการ ‘ถอนตัวเร็วเกินคาด’ ของเขา
บิตคอยน์(BTC) มีส่วนแบ่งตลาดกลับขึ้นมาแตะ 63.9% ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) อยู่ที่ 9.4% สะท้อนถึงภาวะที่ความสนใจในอัล트คอยน์ลดลงอย่างชัดเจน โดย ‘ดัชนีอัลต์ซีซัน’ อยู่ที่เพียง 23 คะแนนจาก 100 คะแนน
ในตลาดอนุพันธ์ พบการ ‘ล้างพอร์ต’ ขนาดใหญ่ โดยข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่า ภายในเวลา 24 ชั่วโมง นักลงทุนกว่า 100,000 รายทั่วโลกขาดทุนรวมราว 5,054 พันล้านวอน (ประมาณ 364.6 ล้านดอลลาร์) โดยรายการล้างพอร์ตที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นบนไบแนนซ์จากการเทรดโซลานา(SOL) คิดเป็นมูลค่าราว 4.6 พันล้านวอน (332 ล้านดอลลาร์) สถานการณ์นี้เน้นย้ำถึงความเปราะบางของนักลงทุน ‘เลเวอเรจสูง’ ต่อความผันผวนของตลาด
ราคาบิตคอยน์ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 147.69 ล้านวอน (106,170 ดอลลาร์) โดยมียอดซื้อขายทะลุ 73.78 ล้านล้านวอน (5.309 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นกว่า 24.4% ส่วนอีเธอเรียมลดลง 2.67% เหลือราว 3.54 ล้านวอน (2,550 ดอลลาร์) ขณะที่โซลานาและริปเปิล(XRP) ลดลงเท่ากันที่ 3.61% มาอยู่ที่ประมาณ 209,440 วอน (150.68 ดอลลาร์)
เหรียญที่โดดเด่นด้านบวกในช่วงนี้ ได้แก่ เพนเดิล(PENDLE) เพิ่มขึ้น 3.51% อยู่ที่ประมาณ 5,440 วอน, บิตคอยน์แคช(BCH) บวก 3.45% อยู่ที่ 650,366 วอน และโมเนโร(XMR) เพิ่มขึ้น 3.34% อยู่ที่ 455,800 วอน ด้านตัวที่ราคาร่วงแรงที่สุดคือ SPX6900 (-15.79%, 1,975 วอน), อิมมิวเทเบิลเอ็กซ์(IMX, -10.77%, 595 วอน) และซีแคช(ZEC, -8.93%, 58,800 วอน)
การอ่อนตัวของตลาดครั้งนี้เกิดขึ้นจาก ‘ความไม่แน่นอนของดอกเบี้ยนโยบาย’, ‘ผลตอบแทนที่ลดลงเทียบกับตลาดหุ้น’ และ ‘แรงกดดันจากการล้างพอร์ตขนาดใหญ่’ ซึ่งเป็นปัจจัยผสมผสาน โดยหากตลาดคริปโตต้องการกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง การฟื้นสภาพเศรษฐกิจมหภาค รวมถึง ‘การฟื้นความเชื่อมั่นในตลาด’ จะเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในช่วงต่อไป
ความคิดเห็น 0