ริปเปิล(XRP) กลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง หลังจากราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ‘สัญญาณความร้อนแรงเกินไป’ เริ่มชัดเจนมากขึ้น โดยปริมาณการซื้อขายลดลงแทบครึ่งภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง สะท้อนความเป็นไปได้ที่ XRP อาจแตะจุดสูงสุดของรอบแล้ว
อ้างอิงข้อมูลจาก CoinMarketCap เมื่อวันที่ 24 ปริมาณการซื้อขายของ XRP ลดลง *50.69%* เหลือประมาณ 11,370 ล้านดอลลาร์ หรือราว 15.7 ล้านล้านวอน ขณะเดียวกันราคาก็ปรับตัวลงเล็กน้อย *0.48%* มาอยู่ที่ 3.43 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,769 บาท) การร่วงลงของทั้งราคาและปริมาณซื้อขายพร้อมกันแสดงถึงภาวะ *เข้าซื้อเกินไป* ตามคำจำกัดความในเชิงเทคนิค
ดัชนี RSI ที่พุ่งไปถึงระดับ 76.72 ตอกย้ำมุมมองดังกล่าว เนื่องจากค่าเหนือระดับ 70 มักตีความได้ว่าอยู่ในโซนร้อนแรงเกินปกติ ส่งผลให้มีการประเมินว่า XRP อาจทำจุดสูงสุดที่ 3.65 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,080 บาท) ไปแล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงปรับฐาน
ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า หากไม่มีแรงหนุนจาก ‘วาฬ’ หรือ *นักลงทุนรายใหญ่* อย่างมีนัยสำคัญ ราคาของ XRP อาจหลุดต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 บาท) ซึ่งจะเท่ากับการสูญเสียกำไรจากรอบปรับขึ้นล่าสุดทั้งหมด
ถึงอย่างนั้น ความคาดหวังต่อการอนุมัติ ETF ของ XRP ยังมีน้ำหนักอยู่ในจิตวิทยาตลาด แม้การอนุมัตินั้นอาจไม่ส่งผลต่อตัวราคาทันที แต่ก็อาจช่วยสร้างความมั่นคงทางภาพรวมในระยะยาว และกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ต้องการเห็น XRP มีจุดยืนในระบบการเงินแบบดั้งเดิม
ในอีกแง่มุมหนึ่ง ความคืบหน้าดังกล่าวอาจสะท้อนโอกาสในอนาคต โดยตัวอย่างจากรายของ เดฟ พอร์ตนอย(Dave Portnoy) ผู้ก่อตั้ง Barstool Sports ซึ่งเคยเป็นนักวิจารณ์คริปโตตัวยง ออกมายอมรับแบบตรงไปตรงมาว่า *“เสียใจจนอยากร้องไห้”* ที่ตัดสินใจขาย XRP ไปก่อนหน้าการปรับขึ้นราคาครั้งนี้
แม้จะมีสัญญาณฟองสบู่ แต่ ‘อนาคตของ XRP’ ยังไม่อาจตัดสินได้ในระยะสั้น โดยปัจจัยหลักที่ต้องจับตาคือ *ETF, แรงซื้อจากวาฬ และการฟื้นตัวของอารมณ์นักลงทุน* ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นตัวชี้ชะตาทิศทางราคาของ XRP ในระยะถัดไป นักลงทุนควรวางแผนอย่างรอบคอบ ระหว่างโอกาสทำกำไรและความเสี่ยงที่ไม่อาจมองข้าม
ความคิดเห็น 0