ไนจีเรียเตรียมเก็บภาษีธุรกรรมคริปโต หวังเพิ่มรายได้ภาครัฐ

รัฐบาลไนจีเรียกำลังเดินหน้าผลักดันมาตรการเก็บภาษีจากการซื้อขายคริปโต โดยคาดหวังว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับภาครัฐได้อย่างมีนัยสำคัญ

ตามรายงานของ Bloomberg เมื่อวันที่ 14 รัฐบาลไนจีเรียกำลังพิจารณาแก้ไขข้อบังคับเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อบรรจุการซื้อขายคริปโตเข้าสู่ระบบภาษีของประเทศ หากร่างแก้ไขนี้มีผลบังคับใช้ การทำธุรกรรมทั้งหมดใน ‘แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ได้รับอนุญาต’ จะถูกจัดเก็บภาษีอย่างเป็นทางการ โดยสภานิติบัญญัติของไนจีเรียมีแผนเริ่มหารือเกี่ยวกับกรอบการเก็บภาษีคริปโตตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม ปี 2025 และอาจมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายดังกล่าวภายในปีนี้

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของไนจีเรีย(SEC) กำลังดำเนินมาตรการเข้มงวดขึ้นเพื่อตรวจสอบอุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งรวมถึงการขยายกระบวนการออกใบอนุญาตให้กับแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รัฐบาลสามารถติดตามและจัดเก็บภาษีจากการซื้อขายคริปโตได้ดียิ่งขึ้น ความพยายามดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงเพิ่มระดับความโปร่งใสในตลาด

ไนจีเรียได้เริ่มดำเนินการออกใบอนุญาตให้กับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2024 เพื่อนำร่องมาตรการควบคุมอุตสาหกรรมนี้ และในเดือนกันยายนปีเดียวกัน รัฐบาลได้เริ่มดำเนินการกวาดล้างแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งในขณะนั้นมีเพียงสองแพลตฟอร์มเท่านั้นที่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกัน SEC ไนจีเรียได้เริ่มควบคุมกลยุทธ์ด้านการตลาดของอุตสาหกรรมคริปโตอย่างเข้มงวดขึ้น ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดให้ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลต้องได้รับการ ‘อนุมัติล่วงหน้า’ จาก SEC ก่อนใช้บุคคลที่สาม เช่น อินฟลูเอนเซอร์โซเชียลมีเดีย ในการโฆษณาหรือทำการตลาด

แม้จะมีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น แต่คนรุ่นใหม่ในไนจีเรีย ซึ่งเป็นประชากรที่มีแนวโน้มเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ยังคงให้ความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมองว่าเป็นทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงจาก ‘อัตราเงินเฟ้อที่สูง’ และ ‘การอ่อนค่าของไนรา’ ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา ประธานาธิบดีโบลา ตินูบู ได้ดำเนินการปฏิรูปเพื่อกระตุ้นรายได้ของรัฐและลดการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งรวมถึงนโยบายเก็บภาษีคริปโตที่กำลังถูกผลักดันในครั้งนี้