บิตคอยน์(BTC) อาจลดลงแตะระดับ ‘110,000 ดอลลาร์’ จากแรงขายของนักลงทุนระยะสั้น โดยบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน *Glassnode* เตือนถึง ‘ช่องว่างของราคา’ ใต้ระดับแนวรับหลัก ซึ่งอาจกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ
จากรายงานล่าสุดของ *Glassnode* ระบุว่า ราคาบิตคอยน์เคยพุ่งผ่านช่วง 110,000 - 115,000 ดอลลาร์ในเดือนที่ผ่านมาได้อย่างรวดเร็วโดยมีปริมาณการซื้อขายต่ำ นำไปสู่ข้อสังเกตว่า "บริเวณราคาระดับนี้ด้านล่างอาจไม่มีแรงซื้อที่มั่นคงเพียงพอ" ส่งผลให้มีโอกาสที่ราคาจะถอยลงมาเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว
กลุ่มนักลงทุนระยะสั้น หรือ STH (Short-Term Holders) ซึ่งโดยทั่วไปถือบิตคอยน์ไม่เกิน 155 วัน เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวรับของราคาในปัจจุบัน ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการซื้อสะสมได้กระจุกตัวอยู่ในช่วงราคา 117,000 - 122,000 ดอลลาร์ ซึ่งหากราคาปรับตัวลงมากกว่าเดิม อาจส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อนักลงทุนกลุ่มนี้ได้
ทาง *Glassnode* อธิบายว่า “โครงสร้างต้นทุนของบิตคอยน์มีช่องว่างของการซื้อขายอยู่ด้านล่างราคาปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วง 110,000 - 115,000 ดอลลาร์ ซึ่งขาดแรงซื้ออย่างเพียงพอ จึงทำให้ช่วงราคานี้ยังคงเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยง” พร้อมเปรียบเทียบว่าราคามีโอกาส ‘ถูกดึงดูด’ ลงมายังช่วงนี้เหมือนแรงโน้มถ่วง
ในทางกลับกัน หากบิตคอยน์สามารถทะลุแนวต้านด้านบนไปได้ ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนระยะสั้นจะเทขายเพื่อล็อกกำไร ซึ่งอาจจำกัดการปรับขึ้นของราคาไว้ที่บริเวณ 140,000 ดอลลาร์ จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา นักลงทุนกลุ่มนี้มักตอบสนองอย่างรวดเร็วในช่วงที่ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดการปรับฐานชั่วคราวในระยะสั้น
ในภาพรวม ราคาบิตคอยน์ขณะนี้ยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับต้นทุนการซื้อขายหลัก แต่ยังเผชิญความเสี่ยงจาก ‘ช่องว่างการซื้อขาย’ ที่อยู่ต่ำกว่าราคา ด้วยเหตุนี้ ความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักลงทุนระยะสั้นจะเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางราคาของบิตคอยน์ในช่วงต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความคิดเห็น 0