ริปเปิล(XRP) พุ่งแตะ 3 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์คาดราคาอาจแตะ 12.6 ดอลลาร์ หลัง SEC ปรับจุดยืน

ริปเปิล(XRP) กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งในตลาดคริปโต หลังจากคดีความที่ยืดเยื้อกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ มีการคาดการณ์ว่าราคาเป้าหมายที่ระดับ *12.6 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17,514 บาท)* อาจกลายเป็นความจริงได้ในไม่ช้า

อลี มาร์ติเนซ (Ali Martinez) นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียของเขา (@ali_charts) ว่าการที่ริปเปิล(XRP) สามารถทะลุแนวต้านสามเหลี่ยมสะสมที่เริ่มต้นจากหลายปีก่อนได้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ทำให้ราคาเป้าหมายนี้ไม่ใช่แค่ความคาดหวังอีกต่อไป แต่เป็น ‘สถานการณ์ที่เป็นไปได้’ โดยขณะนี้ XRP พุ่งขึ้นแตะระดับใกล้ *3 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,170 บาท)* ซึ่งสะท้อนสัญญาณการเข้าสู่ภาวะ ‘ซูเปอร์กระทิง’ ของราคา

หลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายสิ้นสุดลงเมื่อเดือนสิงหาคม ผู้กำกับดูแลใหม่ของ SEC อย่าง พอล แอทกินส์ (Paul Atkins) ได้ประกาศว่าจะให้ความสำคัญกับ *กรอบกฎหมายที่ชัดเจนและเปิดรับนวัตกรรม* พร้อมเสริมข้อมูลด้วยแฮชแท็ก #ProjectCrypto ซึ่งกลายเป็นจุดกระตุ้นความหวังของนักลงทุนว่า XRP จะสามารถบุกเข้าสู่ระบบการเงินแบบดั้งเดิมได้ในไม่ช้า *ความคิดเห็น: การเปลี่ยนแปลงท่าทีของ SEC อาจเป็นก้าวสำคัญต่ออนาคตของคริปโตในสหรัฐ*

ท่ามกลางการปลดล็อกกฎหมาย การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อิงจาก XRP ก็กำลังเพิ่มขึ้นในตลาดโลก ปัจจุบันมี *ETF แบบสปอตที่อิงกับ XRP* อยู่ในแคนาดา, ยุโรป และบราซิล ส่วนในสหรัฐ อีแชร์ส (iShares) บริษัทย่อยของแบล็คร็อก ได้เปิดตัว *XRP ฟิวเจอร์ส ETF* แล้ว แม้ว่าแบล็คร็อกเองจะยังระมัดระวังต่อการเปิดตัว ETF แบบสปอตในสหรัฐ แต่หลายบริษัทก็ได้ยื่นขออนุมัติเป็นที่เรียบร้อย สะท้อนภาพว่าการยอมรับในระดับสถาบันใกล้จะเกิดขึ้นจริง

แม้ว่า XRP ยังได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย อาทิ ภาพรวมตลาดโลก ความเร็วในการยอมรับเข้าสู่ระบบการเงินดั้งเดิม และประเด็นด้านกฎหมาย แต่หลังจากการสิ้นสุดของคดีล่าสุด *การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีแนวโน้มบวก* และ *เงินทุนที่ไหลเข้าสม่ำเสมอ* ก็ทำให้ราคาที่ระดับ 12.6 ดอลลาร์ดูเป็นไปได้มากขึ้น หาก XRP บรรลุราคาดังกล่าว จะหมายถึงการเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่าจากระดับปัจจุบัน

วงการคริปโตกำลังจับตาว่า XRP จะก้าวข้ามจากการเป็นเพียง ‘เหรียญข้อพิพาททางกฎหมาย’ ไปสู่การเป็น *สินทรัพย์หลักในระบบการชำระเงินและการบริหารสินทรัพย์ระดับโลก* ได้จริงหรือไม่ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่ดูจะอยู่ไม่ไกลจากมือของนักลงทุนอีกต่อไป