ราคา *อีเธอเรียม(ETH)* พุ่งทะลุระดับ 4,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.1 ล้านบาท) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 สร้างกระแสความสนใจในหมู่นักลงทุนคริปโตอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาซึ่งราคาปรับตัวขึ้นถึง 49% ส่งสัญญาณโมเมนตัมเชิงบวกที่ชัดเจน สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดอีเธอเรียมในรอบหลายปี
จากรายงานล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า มีปัจจัยหลัก 3 ประการที่หนุนราคาของ *อีเธอเรียม(ETH)* ในช่วงนี้ โดยปัจจัยแรกคือ *การไหลเข้าของเม็ดเงินในกองทุน ETF อย่างถล่มทลาย* ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ETF ที่อิงกับอีเธอเรียมสามารถดึงเงินทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.39 แสนล้านบาท) ได้ภายในวันเดียว ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเหนือกว่ากองทุน ETF ที่อิงกับ *บิตคอยน์(BTC)* ในช่วงเวลาเดียวกัน ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นเพียง 1 ปีหลังจาก ETF อีเธอเรียมได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการ แสดงให้เห็นถึงการตอบรับในหมู่นักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความคิดเห็น: การไหลเข้าของเงินทุนที่มากขนาดนี้ตอกย้ำภาพของ ‘ตลาดที่เริ่มสุกงอม’ สำหรับอีเธอเรียมอย่างแท้จริง
ปัจจัยต่อมาคือ *การยอมรับจากภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน* แนวโน้มนี้เริ่มต้นจากการที่หลายบริษัทเริ่มเลียนแบบแนวทางของไมโครสตราเทจี เตรียมถืออีเธอเรียมไว้เป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์องค์กร เช่น บริษัท ‘บิตมายนอีเมอร์ชันเทคโนโลยี’ ภายใต้การนำของ ‘ทอม ลี’ และ ‘ชาร์ปริงค์เกมมิ่ง’ ของ ‘โจ รูบิน’ ที่ออกมาใช้โทเคน ETH ในแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ความคิดเห็น: การเข้าไปมีส่วนในสินทรัพย์ดิจิทัลของภาคเอกชน สะท้อนมุมมองที่เปลี่ยนไปต่อ ‘อีเธอเรียม เป็นสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐาน’
สุดท้ายคือ *ความแข็งแกร่งในฐานะแพลตฟอร์มหลักของสเตเบิลคอยน์* ปัจจุบันเครือข่ายของอีเธอเรียมครองส่วนแบ่งถึง 55% ของปริมาณการหมุนเวียนของ *สเตเบิลคอยน์* ทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าบล็อกเชนคู่แข่งอย่างชัดเจน ‘ไมลส์ ดอยเชอร์’ นักวิเคราะห์คริปโต เปิดเผยว่า “ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ปริมาณเงินทุนจากสเตเบิลคอยน์ที่ไหลเข้าสู่อีเธอเรียมสูงกว่าบล็อกเชนรายอื่นรวมแล้วกว่า 335 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.66 พันล้านบาท)” นับเป็นอีกสัญญาณของความนิยมที่ยังเติบโต
เมื่อพิจารณาร่วมกัน ทั้ง 3 ปัจจัยประกอบไปด้วย ‘ETF ที่ร้อนแรง’, ‘องค์กรที่หันมาถือ ETH’ และ ‘ความเป็นผู้นำด้านสเตเบิลคอยน์’ ยิ่งตอกย้ำว่า ราคาที่ปรับขึ้นในขณะนี้ไม่ได้เป็นเพียงการฟื้นตัวทางเทคนิคระยะสั้น แต่สะท้อนถึง *การเติบโตเชิงโครงสร้างของระบบนิเวศอีเธอเรียม* ในระยะยาว หลายฝ่ายเชื่อว่า อีเธอเรียมกำลังขยับจากการเป็นเพียง ‘อัลต์คอยน์รายใหญ่’ สู่ ‘โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของโลกบล็อกเชน’ อย่างเต็มตัวแล้วในเวลานี้
ความคิดเห็น 0