นักลงทุนรายใหญ่ที่เข้าซื้อ *อีเธอเรียม(ETH)* ตั้งแต่ช่วงแรกยังคงขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการขายคริปโตอีกครั้งในปริมาณใหญ่ คิดเป็นจำนวน 4,283 ETH หรือมูลค่าราว 18.97 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 263.5 ล้านบาท) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการถือครองในช่วงการเสนอขายเหรียญครั้งแรก (ICO) ปี 2014 โดยแหล่งข้อมูลจาก Lookonchain ระบุว่า นักเทรดรายนี้เคยซื้อ ETH จำนวน 100,000 เหรียญในปีดังกล่าวด้วยเงินเพียง 31,000 ดอลลาร์ (ราว 4.3 ล้านบาท) เท่านั้น
จากข้อมูลบล็อกเชนของ Lookonchain เมื่อวันที่ 24 ระบุว่า นักลงทุนคนนี้ได้ทยอยขาย *อีเธอเรียม(ETH)* ตั้งแต่ปี 2021 รวมแล้วถึง 44,284 ETH โดยมีราคาเฉลี่ยในการขายที่ 2,378 ดอลลาร์ (ประมาณ 330,000 บาท) ทำให้สามารถทำกำไรรวมได้แล้วกว่า 105 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,460 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ที่น่าจับตามองคือ นักลงทุนรายนี้ยังคงถือครอง ETH อีกกว่า 55,716 เหรียญ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 261.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,639 ล้านบาท) ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์คริปโต ด้วยผลตอบแทนรวมเกินกว่า 11,000 เท่า
ขณะเดียวกัน ราคา *อีเธอเรียม(ETH)* ณ เวลารายงาน อยู่ที่ระดับ 4,670.70 ดอลลาร์ (ประมาณ 649,000 บาท) เพิ่มขึ้นกว่า 6.05% ภายในวันเดียว และมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 563.8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 785 ล้านล้านบาท) แซงหน้าบริษัทดั้งเดิมอย่างเน็ตฟลิกซ์(NFLX) และมาสเตอร์การ์ด(MA) ไปเป็นที่เรียบร้อย
การเติบโตครั้งนี้ไม่ได้มาจากฝั่งนักลงทุนรายย่อยเท่านั้น แต่อีกกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาสนับสนุนอย่างมีนัยคือ ‘สถาบัน’ จากรายงานล่าสุดของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดการณ์ราคาของ *อีเธอเรียม(ETH)* ว่าอาจขึ้นไปแตะ 7,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,043,000 บาท) ภายในสิ้นปี 2025 และในระยะยาวถึงปี 2028 มีโอกาสพุ่งถึง 25,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,475,000 บาท) ซึ่งเป็นการปรับประมาณการขึ้นจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
กระแสการลงทุนของสถาบันยังได้รับการเสริมแรงจากการเปิดเผยของบริษัทเหมืองทองคำ BitMine ที่ประกาศแผนเตรียมจัดสรรงบลงทุน 22,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.058 แสนล้านบาท) หรือประมาณ 5% ของอุปทานรวม เพื่อเข้าซื้อ *อีเธอเรียม(ETH)* โดยเฉพาะ รวมถึงการเคลื่อนไหวจากบริษัทเอกชนที่เริ่มรวม ETH เข้ากับระบบบัญชี ซึ่งอาจทำให้การครอบครอง ETH ของสถาบันเติบโตแตะระดับ 30.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.2 แสนล้านบาท)
นอกจากนี้ แคธี วูด(Cathie Wood) ซีอีโอของ ARK อินเวสต์ ก็ยังคงแสดงความมั่นใจต่อศักยภาพระยะยาวของ *อีเธอเรียม(ETH)* อย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์บางรายยังเชื่อว่า ราคา ETH อาจสูงถึง 22,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,058,000 บาท) ในอนาคต หากกระแสการซื้อขายทั้งจาก ‘วาฬ’ และผู้เล่นรายใหญ่อย่างสถาบันยังคงดำเนินต่อไป
*ความคิดเห็น*: การเข้าช้อนซื้อ ETH อย่างก้าวกระโดดจากนักลงทุนรายใหญ่และสถาบัน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในตัวโปรเจกต์และเครือข่ายอีเธอเรียมที่ยังคงแข็งแรง การเคลื่อนไหวของราคาในระดับสูงสุดใหม่นั้นอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการปรับฐานทางเศรษฐกิจใหม่ในโลกคริปโตที่สถาบันกำลังก้าวเข้ามามีบทบาทเด่นมากขึ้น
ความคิดเห็น 0