โรเบิร์ต คิโยซากิเตือน 'ฟองสบู่ทุกสิ่ง' อาจระเบิดในปี 2025—บิตคอยน์ยังเป็นทางรอด?

โรเบิร์ต คิโยซากิ(Robert Kiyosaki) เตือนถึงวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในปี 2025 ซึ่งเขาเรียกว่า ‘Everything Bubble’ หรือ ‘ฟองสบู่ทุกสิ่ง’ โดยคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์ต่างๆ รวมถึงหุ้น อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ เงิน และบิตคอยน์(BTC) อาจปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง

เมื่อไม่นานมานี้ คิโยซากิได้โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า "วิกฤตการเงินที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์กำลังจะมาถึง" และเชื่อว่าปี 2025 อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ "ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่" (Greatest Depression) เขาชี้ให้เห็นถึงปัจจัยหลายอย่าง เช่น หนี้ภาครัฐที่เพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อ และการปรับโครงสร้างของบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งล้วนเป็นตัวเร่งให้เกิดการล่มสลายของระบบการเงิน นอกจากนี้ เขายังวิพากษ์วิจารณ์ว่าระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ "เงินปลอม" (fake money) ซึ่งส่งผลให้คนรวยยิ่งรวยขึ้น ในขณะที่ชนชั้นกลางและประชาชนทั่วไปเผชิญกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม คิโยซากิยังคงมั่นใจในบิตคอยน์ แม้ว่าตลาดจะเผชิญกับความผันผวน เขายืนยันว่าจะไม่ขายบิตคอยน์ของตน และวางแผนที่จะซื้อเพิ่มขึ้นอีก โดยให้เหตุผลว่า "สินทรัพย์อย่างบิตคอยน์ ทองคำ และเงิน เป็น ‘เงินจริง’ ที่จะมีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ"

ในขณะเดียวกัน มหาเศรษฐีนักลงทุน เรย์ ดาลิโอ(Ray Dalio) ก็ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเตือนว่าประเทศอาจเข้าสู่ "วังวนแห่งหนี้สิน" (Debt Death Spiral) เขาชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเพิ่มภาระหนี้ในระดับที่ไม่สามารถรับมือได้ ขณะที่นักลงทุนเริ่มลดความเชื่อมั่นในการถือครองพันธบัตรรัฐบาล ส่งผลให้เสถียรภาพทางการเงินของประเทศสั่นคลอน ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องแบกรับหนี้ดอกเบี้ยมากถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งเป็นภาระที่อาจกระทบต่อการใช้จ่ายที่จำเป็นในอนาคต

ดาลิโอเสนอว่า เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รัฐบาลควรลดระดับหนี้และควบคุมงบประมาณให้สมดุล โดยเขาเสนอแนวทาง "3% Solution" ซึ่งหมายถึงการลดสัดส่วนการขาดดุลให้อยู่ต่ำกว่า 3% ของ GDP หากไม่มีการดำเนินการดังกล่าว เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ความโกลาหลที่ไม่สามารถย้อนกลับได้

ปัจจุบัน ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง คิโยซากิและดาลิโอต่างชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนของระบบการเงินในปัจจุบัน พร้อมเตือนให้นักลงทุนเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต