เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)กำลังถูกจับตามองในฐานะ ‘แรงผลักดันหลัก’ ที่อาจขับเคลื่อนบทบาทของบิตคอยน์(BTC)ให้เติบโตยิ่งขึ้นในตลาดคริปโต โดยนักลงทุนและนักวิเคราะห์ตลาดอย่างจอร์ดี วีเซอร์(Jordi Visser) มองว่า AI จะเร่งความเร็วของ ‘การปฏิวัติทางเทคโนโลยี’ อย่างมากจนถึงขั้นทำลายโครงสร้างการลงทุนในหุ้นแบบดั้งเดิม และเปิดทางให้ ‘สินทรัพย์ที่มั่นคงกว่า’ อย่างบิตคอยน์กลายเป็นศูนย์กลางความสนใจ
ในการให้สัมภาษณ์กับแอนโทนี พอมเปลียโน(Anthony Pompliano) นักจัดพอดแคสต์ชื่อดัง วีเซอร์ระบุว่า “AI จะทำให้รอบการเกิดนวัตกรรมสั้นลงถึงระดับสัปดาห์” และในภาวะที่นวัตกรรมเดินหน้าเร็วขนาดนี้ “บริษัทจดทะเบียนจะไม่สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรหรือต่อยอดธุรกิจได้อย่างยั่งยืน” พร้อมเน้นว่าความเร็วในการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้จะผลักให้ ‘นักลงทุนเลิกถือหุ้นระยะยาว’ แล้วหันสู่กลยุทธ์การเทรดระยะสั้นแทน
เขาเสริมว่า ในยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ นักลงทุนมีแนวโน้มจะมองหา ‘สินทรัพย์ทางเลือก’ ที่มีเสถียรภาพ และบิตคอยน์คือคำตอบ วีเซอร์ระบุชัดว่า บิตคอยน์ไม่ใช่แค่กระแสชั่วครู่ แต่มันคือ ‘ทรัพย์สินที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางคลื่นเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนโลก’
ขณะเดียวกัน นอกจากแรงขับเคลื่อนจาก AI แล้ว การเมืองในสหรัฐฯ ก็เริ่มส่งแรงสะเทือนมาสู่ตลาดคริปโต ล่าสุดผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซัม(Gavin Newsom) เปิดเผยว่าเขากำลังพิจารณา ‘สร้างมีมคอยน์’ ขึ้นมาเพื่อเย้ยหยันโครงการคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์ การเคลื่อนไหวลักษณะนี้ได้จุดกระแสวิพากษ์ในแวดวงการเมืองและการเงิน พร้อมกระตุ้นให้ความสัมพันธ์ระหว่าง ‘ทรัมป์’ และ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง
เมื่อพิจารณาภาพรวม ทั้ง AI บิตคอยน์ และแรงกระเพื่อมทางการเมือง กำลังทำให้ตลาดคริปโตถูกจับตามองมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้กระแสความสนใจจะพุ่งสูง ข้อมูลบางส่วนยังบ่งชี้ว่ากิจกรรมบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับคริปโตกำลังลดลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่า ‘ตลาดอาจเผชิญการปรับฐานในระยะสั้น’ ความเห็นจากนักวิเคราะห์หลายฝ่ายระบุว่า แม้จะมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว แต่ผู้ลงทุนยังควรจับตาความเคลื่อนไหวในช่วงสั้นให้รัดกุม
ความคิดเห็น 0