สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังเผชิญแรงกดดันรุนแรงจากทั้งวงการคริปโตและการเมือง หลังมีการเปิดเผยว่า หน่วยงานได้ลบข้อมูลการส่งข้อความของแกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) อดีตประธาน SEC ด้วยความผิดพลาด โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดคริปโตต้องเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ เช่น การล่มสลายของเอฟทีเอ็กซ์(FTX) และคดียื่นฟ้องกองทุนบิตคอยน์อีทีเอฟของเกรย์สเกล(Grayscale) จึงเกิดคำถามถึงความโปร่งใสและการเก็บรักษาบันทึกของ SEC เอง
รายงานจากหน่วยงานตรวจสอบภายในของ SEC (OIG) ระบุว่า ในเดือนสิงหาคม 2023 ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศได้จัดหมวดหมู่โทรศัพท์ทางราชการของเกนส์เลอร์ผิดเป็น ‘อุปกรณ์ไม่ใช้งาน’ ส่งผลให้ทั้งระบบล็อกของระบบปฏิบัติการและข้อความทั้งหมดถูกลบถาวร โดยไม่มีการสำรองข้อมูลไว้ และขั้นตอนภายในก็ไม่สามารถช่วยกู้คืนข้อมูลได้ แถมยังไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยซ้ำว่าโทรศัพท์ดังกล่าวถูกตัดการเชื่อมต่อจากระบบของ SEC ได้อย่างไร
ข้อความที่ถูกลบรวมถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการลงโทษผู้ก่อตั้งตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล การเจรจากับสถาบันการเงินรายใหญ่ระดับโลก และการติดต่อกับทำเนียบขาว โดยในบรรดาข้อความกว่า 1,500 ฉบับที่นักสอบสวนจาก SEC สามารถกู้คืนได้จากแหล่งอื่น พบว่า 38% เป็นข้อมูลเกี่ยวข้องกับภารกิจหลักของหน่วยงาน อาทิ การหารือแผนลงโทษแพลตฟอร์มคริปโตในเดือนพฤษภาคม 2023 การเจรจากับธนาคารในเดือนมิถุนายน และการเตรียมประชุมกับทำเนียบขาวในเดือนกรกฎาคม
ขณะเกิดเหตุการณ์นี้ SEC ก็กำลังเอาผิดสถาบันการเงินบนวอลล์สตรีท เช่น เจพีมอร์แกน(JPMorgan), โกลด์แมน แซคส์(Goldman Sachs) และซิตี้กรุ๊ป(Citigroup) ฐานไม่รักษาบันทึกการสื่อสารตามกฎหมาย ด้วยการใช้แอปที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่าง WhatsApp และ Signal ซึ่งถูกมองว่าเป็นการละเมิดกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ ปี 1934(1934 และยื่นฟ้องไปแล้ว โดย SEC พยายามเน้นย้ำความสำคัญของการเก็บรักษาข้อมูลระหว่างการสื่อสาร — แต่กลับไม่สามารถยึดมาตรฐานนั้นกับตัวเองได้
พอล เกรวัล(Paul Grewal) หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของคอยน์เบส(Coinbase) กล่าวว่า "หน่วยงานกำกับดูแลที่สอนคนอื่นให้รักษาข้อมูล กลับไม่สามารถปกป้องข้อมูลของตัวเองได้" พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า "นี่อาจไม่ใช่แค่ความผิดพลาดธรรมดา แต่เป็นการลบหลักฐานสำคัญโดยเจตนาในกรณีพิพาททางกฎหมาย"
ทาง SEC ปัจจุบันได้ระงับการใช้ฟังก์ชันข้อความในอุปกรณ์ทางราชการส่วนใหญ่ พร้อมรายงานเหตุการณ์นี้ต่อหอจดหมายเหตุแห่งชาติ และนำโปรแกรมอบรมพนักงานระดับสูงเรื่องการเก็บบันทึก ชื่อว่า ‘แคปสโตน(Capstone)’ มาใช้ รวมถึงเสริมสร้างระบบสำรองข้อมูลให้เข้มแข็งขึ้น
ทั้งนี้ ระหว่างที่ประธานาธิบดีทรัมป์ดำรงตำแหน่ง ฝ่ายบริหารมีนโยบายผ่อนคลายการกำกับดูแล แต่ในช่วงของเกนส์เลอร์ SEC ได้ดำเนินมาตรการเข้มงวดกับตลาดคริปโตอย่างต่อเนื่อง การลบข้อความในครั้งนี้อาจทำให้ข้อมูลการตัดสินใจเชิงนโยบายกับการติดต่อกับทำเนียบขาวในขณะนั้นสูญหายไป ซึ่งอาจนำไปสู่การสอบสวนเพิ่มเติมทั้งจากรัฐสภาและหน่วยงานยุติธรรมในอนาคต
ความคิดเห็น 0