รัฐบาลเอลซัลวาดอร์เดินหน้านำเสนอความสำเร็จของนโยบายคริปโตในประเทศ เนื่องในวันแห่งบิตคอยน์(BTC) ซึ่งจัดขึ้นทุกปีเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ในเดือนกันยายน 2021 ที่รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีนาจิบ บูเคเล ประกาศให้บิตคอยน์เป็นเงินตราถูกกฎหมายอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลก
เมื่อวันที่ 9 (เวลาท้องถิ่น) สำนักงานบิตคอยน์แห่งเอลซัลวาดอร์เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X อย่างเป็นทางการว่า ประเทศได้สะสมบิตคอยน์ไว้แล้วทั้งหมด *6,313 BTC (มูลค่าราว 97,450.7 ล้านบาท)* โดยเป็นผลจากยุทธศาสตร์การถือครองบิตคอยน์ระยะยาว ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสถานะของบิตคอยน์ในประเทศ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเงินสำรองระหว่างประเทศผ่านการถือครองสินทรัพย์ทางเลือก
อีกหนึ่งมาตรการสำคัญคือการประกาศ *กฎหมายธนาคารลงทุนบิตคอยน์* ฉบับใหม่ ซึ่งเปิดทางให้สามารถจัดตั้งธนาคารที่ให้บริการด้านการเงินโดยใช้บิตคอยน์เป็นพื้นฐานแก่ผู้มีสินทรัพย์สูงและนักลงทุนสถาบัน ความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่ช่วยส่งเสริมการหลอมรวมระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิทัล อีกทั้งยังมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติและเร่งพัฒนาตลาดการเงินคริปโต
ไม่เพียงเท่านั้น สำนักงานบิตคอยน์ยังชี้ให้เห็นถึงความคืบหน้าในการพัฒนา ‘บุคลากรด้านบิตคอยน์’ โดยระบุว่า *ข้าราชการกว่า 80,000 ราย* ได้รับการอบรมพร้อมรับรองด้านบิตคอยน์ภายในปี 2025 รวมถึงมีการเดินหน้าโครงการฝึกอบรมระดับประเทศโดยใช้เทคโนโลยี *AI และบล็อกเชน* ซึ่งรัฐบาลมองว่าเป็นฐานรากสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในระยะยาว
นับตั้งแต่การประกาศใช้บิตคอยน์เป็นเงินตราถูกกฎหมาย เอลซัลวาดอร์ได้ลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อสกุลเงินดิจิทัล และในปัจจุบัน การถือครองบิตคอยน์อย่างเป็นระบบรวมถึงการปฏิรูปการเงินแบบดิจิทัลได้กลายเป็น *หัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ประเทศ*
*ความคิดเห็น* ผู้เชี่ยวชาญมองว่านโยบายของเอลซัลวาดอร์เป็นมากกว่าการลงทุนในคริปโต แต่คือ “การทดลองทางเศรษฐกิจ” เพื่อช่วงชิงอำนาจนำในระเบียบการเงินโลกยุคใหม่ ทั้งยังมีโอกาสที่จะเป็นต้นแบบให้กับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ในอนาคตอีกด้วย
ความคิดเห็น 0