เมสซารี รีเสิร์ช(Messari Research)ประเมินว่า *BNB สมาร์ตเชน* ยังคงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 แม้รายได้จากเครือข่ายจะลดลง โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับปรุงทางเทคนิคและการขยายตัวของผู้ใช้งานอย่างชัดเจน การอัปเกรดผ่านฮาร์ดฟอร์ก ‘ลอเรนซ์’ และ ‘แมกซ์เวลล์’ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนกิจกรรมส่งเสริมผู้ใช้งานอย่าง ‘0-Fee คาร์นิวัล’ ก็ช่วยกระตุ้นกิจกรรมต่างๆ บนเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่ามูลค่าตลาดของ *บีเอ็นบี(BNB)* จะเพิ่มขึ้น 7.5% จากไตรมาสก่อนหน้า แตะระดับ 92.6 พันล้านดอลลาร์ แต่รายได้รวมของ *BNB สมาร์ตเชน* กลับลดลงถึง 37.5% เหลือเพียง 44.1 ล้านดอลลาร์ สาเหตุหลักมาจากการปรับลดค่าธรรมเนียมก๊าซในช่วงไตรมาสนี้จาก 1 gwei เหลือ 0.1 gwei ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมบนเชนที่เพิ่มขึ้น แม้ผลตอบแทนทางการเงินจะลดลงก็ตาม
ในภาพรวมการใช้งาน รายงานระบุว่าจำนวนธุรกรรมเฉลี่ยต่อวันพุ่งขึ้นถึง 101.9% แตะระดับ 9.9 ล้านรายการ ขณะที่จำนวนกระเป๋าเงินที่ใช้งานรายวันก็เพิ่มขึ้นเป็น 1.6 ล้าน หรือคิดเป็น 33.2% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า รายงานชี้ว่าแคมเปญ Binance Alpha ที่นำโดยไบแนนซ์คือปัจจัยหลักที่ผลักดันการเติบโตดังกล่าว โดยในเดือนพฤษภาคมมีปริมาณธุรกรรมต่อวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 15.2 ล้านรายการ และมีการสร้างแอดเดรสใหม่บนเชนมากถึง 17 ล้านรายการในเดือนเดียว ขณะที่หมวดกิจกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะ ‘กิจกรรมแนวเกม’ ก็ขยายตัวถึง 174% กลายเป็นเซกเตอร์หลักที่คิดเป็น 65.9% ของธุรกรรมทั้งหมด
ทางด้านเทคโนโลยี เชนสามารถลดเวลาการสร้างบล็อกลงจาก 3 วินาที เหลือเพียง 0.75 วินาทีหลังจากอัปเกรดผ่านฮาร์ดฟอร์ก ‘แมกซ์เวลล์’ รวมถึงการนำระบบฟาสต์ไฟนาลิตี้ (Fast Finality) เข้ามาใช้ ทำให้เวลายืนยันธุรกรรมลดลงเหลือเพียง 1.875 วินาที โดยมีข้อเสนอ BEP-524, BEP-563 และ BEP-564 ที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ปัจจุบันกว่า 99% ของการสร้างบล็อกได้ถูกขับเคลื่อนด้วย Builder API ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเชนพัฒนาไปอีกระดับ
สำหรับระบบนิเวศดิไฟ(DeFi) มูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) เพิ่มขึ้น 14% แตะ 9.947 พันล้านดอลลาร์ โดย *ลิสตาดาว(ListaDAO)* เติบโตโดดเด่นที่สุด ด้วย TVL พุ่งขึ้น 188.7% กลายเป็นโปรโตคอลอันดับ 3 รองจาก *วีนัส(Venus)* และ *แพนเคกสวอป(PancakeSwap)* โดย*เอฟเว(Aave)* เวอร์ชัน V3 ก็ทำ TVL ได้ถึง 239.3 ล้านดอลลาร์
ในหมวดสเตเบิลคอยน์ การเปิดตัวของ USD1 เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ มูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์เพิ่มขึ้นถึง 49.6% แตะ 10.5 พันล้านดอลลาร์ โดย USD1 ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 20.6% หรือราว 2.2 พันล้านดอลลาร์ ความสำเร็จนี้มีส่วนอย่างมากจากแคมเปญ 0-Fee คาร์นิวัล ที่เสนอให้ผู้ใช้สามารถโอนเหรียญโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม แถมยังสนับสนุนการเชื่อมต่อระหว่างกระเป๋า Web3 และตลาดซื้อขายแบบรวมศูนย์ (CEX) แบบไม่มีค่าใช้จ่าย
ขณะที่เครือข่ายเสริม *opBNB* ยังได้รับการอัปเกรดผ่านโครงการ Volta ซึ่งลดช่วงเวลาระหว่างบล็อกของโรลอัป และเปิดทางให้รองรับการทำธุรกรรมความถี่สูง โดยเฉพาะกับแอปพลิเคชันอย่างเกมและ DEX ที่มีความต้องการประมวลผลแบบเรียลไทม์สูง
ข้อมูล ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2025 *BNB สมาร์ตเชน* ครองอันดับ 1 ในด้านปริมาณการซื้อขาย DEX รายวัน โดยที่ *แพนเคกสวอป* ยังคงเป็นแพลตฟอร์มหลัก อย่างไรก็ตาม *ยูนิสวอป(Uniswap)* ก็แข็งแกร่งขึ้น ด้วยการเพิ่มขึ้นของปริมาณซื้อขายถึง 755.4% ส่งผลให้กลายเป็นคู่แข่งสำคัญ ขณะเดียวกันตลาด NFT ก็เริ่มฟื้นตัว โดยมูลค่าซื้อขายเพิ่มขึ้น 258.9% เป็น 917,200 ดอลลาร์
ในแง่การสเตก มูลค่า BNB ที่ถูกนำไปสเตกทั้งหมดอยู่ที่ 20.2 พันล้านดอลลาร์ จากจำนวนรวม 30.7 ล้านเหรียญ ยกระดับสถานะของ BNB สมาร์ตเชน ให้เป็นเชนแบบ Proof-of-Stake ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ตามมูลค่าดอลลาร์
ปิดท้ายที่ด้านการพัฒนาอีโคซิสเต็ม BNB เปิดตัวโปรแกรม MVB ซีซัน 9 โดยคัดเลือกสตาร์ตอัปที่มีศักยภาพสูงจำนวน 16 ราย ในสาย AI, DeSci และเกม เพื่อได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มข้น พร้อมกระตุ้นการเติบโตของโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Web3 คอนเทนต์, ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และโซลูชันจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์
เมสซารี รีเสิร์ช ระบุว่า “*ไตรมาสที่ 2 ปี 2025* คือช่วงเวลาที่ *BNB สมาร์ตเชน* แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างชัดเจน ทั้งในด้านเทคโนโลยี การขยายผู้ใช้งาน และการพัฒนาอีโคซิสเต็ม โดยมีการอัปเกรดเครือข่ายและกลยุทธ์ด้านแรงจูงใจเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ และเสริมสถานะ BNB ในฐานะเครือข่ายที่รองรับอีเธอเรียมประสิทธิภาพสูง”
ความคิดเห็น 0