แม้ธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐจะร่วมกันแสดงความกังวลเกี่ยวกับ ‘สเตเบิลคอยน์’ แต่แมตต์ โฮแกน(Matt Hougan) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบิตไวส์(Bitwise) กลับออกมาสวนกระแส ชี้ว่าธนาคารควรเร่ง ‘ให้ผลตอบแทนจากเงินฝากที่ดีกว่า’ แทนการโทษคริปโต พร้อมวิจารณ์ว่าแบงก์ปล่อยให้ลูกค้าเป็น ‘ทุนเงินฟรี’ มานานหลายสิบปี
เมื่อวันที่ 24 โฮแกนโพสต์บนแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) โดยระบุว่า หากธนาคารท้องถิ่นกลัวการแข่งขันจากสเตเบิลคอยน์ ทางแก้ไม่ใช่การล็อบบี้รัฐ แต่ควรเริ่มจากการให้ ‘ดอกเบี้ยเงินฝากสูงขึ้น’ แก่ลูกค้า พร้อมชี้ชัดว่า “ธนาคารปฏิบัติต่อผู้ฝากเงินเหมือนของฟรีมาหลายสิบปี” ความเห็นของเขาถูกมองว่าเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อซีตีกรุ๊ปที่เตือนว่า สเตเบิลคอยน์ที่มีผลตอบแทนจะทำให้เกิด ‘การถอนเงินฝากครั้งใหญ่’ จากแบงก์
นอกจากนี้ ธนาคารบางแห่งยังเริ่มล็อบบี้รัฐสภาให้ยกระดับข้อบังคับต่อสเตเบิลคอยน์ โดยเฉพาะกรณีที่เหรียญมอบผลตอบแทน ซึ่งถูกมองว่าอาจกระทบต่อความสามารถในการปล่อยสินเชื่อของแบงก์ในระยะยาว
โฮแกนยังวิพากษ์การวิเคราะห์ของ Bloomberg ที่ออกบทความเตือนว่า “สเตเบิลคอยน์อาจเป็นภัยต่อระบบปล่อยสินเชื่อของธนาคารท้องถิ่น” โดยชี้ว่าเป็น “ความคิดขั้นที่หนึ่งแบบไร้มิติ (First-order thinking)” พร้อมระบุว่า การที่ลูกค้าถอนเงินฝาก ไม่ได้แปลว่าเศรษฐกิจจะพัง เพราะลูกค้ายังสามารถนำเหรียญที่มีไปใช้ใน ‘แพลตฟอร์มการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง(DeFi)’ เพื่อปล่อยกู้และรับผลตอบแทนโดยตรง
“หากธนาคารมีเงินฝากน้อยลง ใช่ครับ ความสามารถในการปล่อยกู้อาจลด แต่ในระบบ DeFi คนที่มีสเตเบิลคอยน์ยังสามารถปล่อยกู้ได้เอง ตลาดยังคงหมุนไปอย่างมีประสิทธิภาพ” โฮแกนกล่าว พร้อมเสริมว่าแบงก์อาจเสียประโยชน์บ้าง แต่ตัวนักลงทุนรายย่อยกลับ ‘มีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากขึ้น’
ในปัจจุบัน สเตเบิลคอยน์บางตัวเสนอดอกเบี้ยสูงถึง *5%* ต่อปี เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเฉลี่ยเงินฝากในสหรัฐซึ่งอยู่ที่ประมาณ *0.6%* หรือแม้แต่บัญชีเงินฝากพิเศษที่ให้ไม่เกิน *4%* ความแตกต่างที่ชัดเจนนี้ ทำให้ผู้ใช้หลายรายตัดสินใจถอนเงินจากธนาคาร และหันมาหาระบบคริปโตแทน โดย *ความคิดเห็น* ของโฮแกนเผยให้เห็นว่า แท้จริงแล้วผู้ฝากจำนวนไม่น้อยอาจกำลัง ‘สูญเสียมูลค่าทางการเงิน’ จากเงินฝากในแบงก์ เมื่อหักลบกับอัตราเงินเฟ้อและค่าธรรมเนียมต่างๆ
ด้วยสถานการณ์ที่ ‘สเตเบิลคอยน์’ เริ่มกลายเป็นตัวเลือกใหม่ด้านผลตอบแทน โลกการเงินแบบดั้งเดิมอาจถึงเวลา ‘ตั้งคำถามกับตัวเอง’ ว่าการแข่งขันกับคริปโตควรใช้แนวทางใด จึงจะรักษามูลค่าให้แก่ลูกค้าได้อย่างยั่งยืน
ความคิดเห็น 0