บิตคอยน์(BTC) ส่งสัญญาณโกลเด้น ครอสด์ในเขตลบ นักวิเคราะห์ชี้มีโอกาสพุ่งแตะ 150,000 ดอลลาร์

บิตคอยน์(BTC) กำลังแสดง ‘สัญญาณทางเทคนิคที่หายาก’ อีกครั้ง ซึ่งนักวิเคราะห์หลายรายมองว่าอาจบ่งชี้ถึงโอกาสของการปรับตัวขึ้นถึง 40% โดยอิงจากรูปแบบเดิมในอดีตที่มักนำไปสู่การฟื้นตัวอย่างชัดเจน สร้างความหวังว่าวัฏจักรประวัติศาสตร์อาจเกิดซ้ำอีกครั้ง

สัญญาณที่ว่านี้มาจากการเกิด ‘โกลเด้น ครอสด์’ ของดัชนี MACD ในกราฟรายวัน ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการฟอร์มตัวที่ระดับต่ำของดัชนี MVRV ระยะสั้น นักวิเคราะห์ที่ใช้ชื่อว่า Mr. Wall Street เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X ว่าการจับคู่ของสัญญาณลักษณะนี้เคยปรากฎมาแล้วสามครั้ง และทั้งหมดเกิดขึ้นใกล้แนวรับระยะสั้นของบิตคอยน์บริเวณราคา 22,000 ดอลลาร์, 68,000 ดอลลาร์ และ 97,000 ดอลลาร์ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าสัญญาณครั้งนี้อาจสะท้อนจุดกลับตัวอีกเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้ครั้งนี้แตกต่าง คือ การเกิดโกลเด้น ครอสด์ในเขต ‘ค่าลบ’ ของ MACD ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่พบไม่บ่อย โดยในอดีตรูปแบบนี้เคยนำไปสู่การแตะระดับราคาเพิ่มขึ้นระหว่าง 30%-40% หากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย นักวิเคราะห์บางรายมองว่า BTC อาจพุ่งแตะระดับสูงถึง 150,000 ดอลลาร์ได้

อย่างไรก็ดี ตลาดยังแบ่งมุมมองออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งแรกเชื่อว่าการดีดตัวล่าสุดเริ่มต้นจากบริเวณ 107,000 ดอลลาร์ และเข้าสู่ช่วงขาขึ้นแล้ว ในขณะที่อีกฝั่งมองว่าแนวต้านระยะสั้น 120,000 ดอลลาร์อาจทำให้เกิดแรงขายและกดราคากลับลงมาทดสอบจุดต่ำซ้ำอีกครั้ง โดยอาจเกิด ‘ราคาหดกลับ’ (short squeeze) ตามมาเมื่อผู้ขายทิ้งสินทรัพย์ออกจากตลาด

Mr. Wall Street ยังโต้แย้งมุมมองขาลงที่กำลังแพร่หลายในโซเชียลมีเดีย โดยชี้ว่าหากราคาทะลุ 50,000 ดอลลาร์ขึ้นไป อาจมีปริมาณการปิดสถานะชอร์ตมากเป็นสองเท่าของการลดลงในทิศทางเดียวกัน ซึ่งสะท้อน ‘แรงส่งเชิงบวก’ ในแง่ของสภาพคล่อง

แม้หลายฝ่ายยังกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาค แต่บทเรียนจากช่วงต้นปี 2023 แสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์เคยกลับตัวจากระดับ 16,000 ดอลลาร์ ขึ้นเป็น 32,000 ดอลลาร์ในเวลาเพียงไตรมาสเดียว ทั้งที่กระแสความกลัวการถดถอยยังคงสูง แสดงให้เห็นว่า *บิตคอยน์สามารถเคลื่อนไหวสวนทางกับภาวะตลาดการเงินทั่วโลกได้*

ในปัจจุบัน นักลงทุนหลายคนถือครองสถานะอยู่ราว 107,000-108,000 ดอลลาร์ และพร้อมเพิ่มการลงทุนหากราคามีการย่อตัว ขณะที่แรงคาดหวังนี้อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดแรงซื้อคืน(short squeeze) และผลักดันราคาขึ้นสูงกว่าเดิม

ด้านผู้เชี่ยวชาญจาก Derive.xyz อย่าง ฌอน ดอว์สัน(Sean Dawson) ระบุว่า แนวโน้มขาขึ้นยังไม่สิ้นสุด พร้อมเสริมว่า “ไตรมาส 4 เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น” โดยแม้เดือนกันยายนมักเป็นช่วงที่ราคาอ่อนตัวในตลาดคริปโต แต่แรงขายที่มีอยู่ในขณะนี้เขามองว่าเป็นเพียง ‘การพักฐานระยะสั้น’ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มระยะยาวของตลาด

นอกจากนี้ สัญญาณทางเทคนิคกำลังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับกราฟประวัติศาสตร์ ซึ่งหมายความว่าความเคลื่อนไหวครั้งถัดไปอาจขึ้นอยู่กับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) และถ้อยแถลงจากประธานเฟดคนปัจจุบัน เจอโรม พาวเวล อย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ในหมู่เทรดเดอร์เริ่มมีข้อความที่พูดกันในวงกว้างว่า “คนที่รอซื้อในตอนปรับฐานจะกลับมาซื้อเมื่อราคาวิ่งขึ้น และนั่นอาจเป็นจุดสูงสุดของรอบนี้” เสียงเหล่านี้ยิ่งเพิ่มความคาดหวังว่าวัฏจักรของบิตคอยน์กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงสำคัญอีกครั้ง