การเคลื่อนไหวของอีเธอเรียม(ETH) บนแพลตฟอร์มไบแนนซ์ยังคงเผชิญกับความนิ่งเฉพาะตัวในช่วงนี้ โดยราคาขยับอยู่ในกรอบแคบ ระหว่างแรงซื้อที่ยังไม่ชัดเจนและการลดลงของการเก็งกำไรผ่านตลาดฟิวเจอร์ส การเทรดในสัญญาฟิวเจอร์ส(Perpetual) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ตลาดซื้อขายแบบสปอตก็ไม่มีแรงสนับสนุนที่โดดเด่น ส่งผลให้ราคาขึ้นลงอยู่ในกลุ่ม ‘สมดุลที่เปราะบาง’ ระหว่างการฟื้นตัวและการปรับฐาน
จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชนอย่างคริปโตควอนต์(CryptoQuant) พบว่า Z-Score ของอีเธอเรียมในช่วงนี้อยู่ระหว่าง -1.0 ถึง 0.0 แสดงถึงอิทธิพลเพียงเล็กน้อยของตลาดแบบสปอต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการเก็งกำไรที่อาศัยเรเวอเรจลดลงอย่างเด่นชัด โดยนับตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์สอยู่ในระดับที่ต่ำลง ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนเริ่มเปลี่ยนมุมมองไปในเชิง ‘หลีกเลี่ยงความเสี่ยง’
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดซื้อขายแบบสปอตไม่ได้แสดงท่าทีอ่อนแรงอย่างชัดเจน แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างแรงกระตุ้นได้เช่นกัน โดยปริมาณการซื้อขายยังคงอยู่ต่ำกว่า 1 ล้านรายการต่อวัน ซึ่งยังห่างไกลจากภาวะ “ปริมาณเร่งตัว” ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมที่ผ่านมา บรรยากาศในตลาดจึงเต็มไปด้วย ‘ความลังเล’ มากกว่าความมั่นใจ แม้กราฟราคาจะมีการขยับขึ้นอย่างช้า ๆ แต่ยังไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน
สถานการณ์ที่ดูเหมือนสงบนั้น อาจช่วยจำกัดความผันผวนในระยะสั้นได้ แต่ในทางกลับกัน การขาดปัจจัยหนุนที่เด่นชัดไม่ว่าจะเป็นแรงซื้อมหาศาลหรือเงินทุนแบบเลเวอเรจ ก็อาจหมายถึง ‘แนวโน้มราคาที่แค่แกว่งอยู่ในกรอบแคบ’ อย่างต่อเนื่อง นักลงทุนจำนวนมากจึงเลือกที่จะรอดูทิศทางที่ชัดเจนก่อนเข้าทำการซื้อขายอย่างจริงจัง
อาเธอร์ อาซิซอฟ(Arthur Azizov) ผู้ก่อตั้งบริษัท B2 Ventures ให้ความเห็นว่า จุดชี้เป็นชี้ตายสำหรับอีเธอเรียมในรอบนี้อยู่ที่ระดับ *5,000 ดอลลาร์ (ราว 6.95 ล้านบาท)* หากสามารถทะลุและยืนระยะได้ จะเปิดโอกาสให้ราคาไต่ระดับสู่ *5,800–6,000 ดอลลาร์ (ราว 8.06–8.34 ล้านบาท)* ภายในสิ้นปีนี้ “การปิดเหนือ 5,000 ดอลลาร์คือกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้น” เขากล่าว
ในทางกลับกัน หากอีเธอเรียมเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง *4,400–4,800 ดอลลาร์ (ราว 6.12–6.67 ล้านบาท)* ตลาดจะยังคงเป็น ‘แนวราบ’ จนถึงเดือนธันวาคม พร้อมการแกว่งตัวขึ้นลงเป็นระยะ และหากราคาไหลลงไปต่ำกว่า *4,400 ดอลลาร์* ก็มีโอกาสปรับฐานลงมาถึงโซน *3,800–4,100 ดอลลาร์ (ราว 5.28–5.70 ล้านบาท)* ซึ่งเป็นระดับที่เงินทุนระยะยาวอาจเริ่มกลับเข้ามา
ขณะนี้ อีเธอเรียมกำลังอยู่ในจุดตัดทางเทคนิคที่สำคัญ ตลาดต่างจับตาว่าจะสามารถ ‘ผ่านด่าน 5,000 ดอลลาร์’ ได้หรือไม่ การหยุดพักในรอบนี้จะเป็นเพียง ‘การตั้งหลัก’ หรือเป็นการเริ่มต้นของความไม่แน่นอนที่รออยู่ข้างหน้า คงต้องปล่อยให้เวลาเป็นผู้ให้คำตอบ
ความคิดเห็น 0