ซีอีโอไบแนนซ์ชี้ บิตคอยน์(BTC) ก้าวสู่สินทรัพย์ระดับโลก เชื่อมโยงเศรษฐกิจมหภาค

ริชาร์ด เท็ง(Richard Teng) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไบแนนซ์(Binance) ได้ให้คำนิยามใหม่แก่ *บิตคอยน์(BTC)* ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “การสนทนาเชิงมหภาคระดับโลก” โดยใช้เพียงสามคำในการสรุปสถานะของบิตคอยน์ในปัจจุบัน เท็งชี้ว่าบิตคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอีกต่อไป แต่ได้กลายมาเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบการเงินโลกอย่างเต็มตัว

ไม่ใช่แค่คำพูดลอยๆ ภายในของไบแนนซ์ได้เผยข้อมูล *หลักฐานแสดงความโปร่งใสด้านทุนสำรอง* โดยระบุว่าขณะนี้บริษัทถือครองบิตคอยน์มากกว่า 629,000 เหรียญ ขณะที่ลูกค้าวางฝากไว้ราว 608,000 เหรียญ คิดเป็นอัตราคุ้มครองประมาณ *103.5%* ซึ่งถือเป็นระดับที่ ‘เกินความจำเป็น’ และบ่งชี้ถึงสถานะของไบแนนซ์ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการสภาพคล่องระดับโลกที่แข็งแกร่ง

เท็งกล่าวเพิ่มเติมว่า *“บิตคอยน์ไม่ได้แยกตัวอยู่ในตลาดคริปโตอีกต่อไป แต่เคลื่อนไหวสอดคล้องไปกับกระแสของเครดิต สภาพคล่อง และอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก”* โครงสร้างใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเริ่มมองเห็นบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นเดียวกับ ‘ทองคำ’ ที่ใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมาก่อน

ภาพสะท้อนนี้สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงล่าสุด ระบบการเงินโลกตอนนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยกลไกการปรับโครงสร้างหนี้และการปล่อยกู้ที่ยึดหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในขณะที่ธนาคารกลางหลายประเทศต้องเผชิญแรงกดดันจากความต้องการสภาพคล่องที่มากขึ้น แรงกดดันเหล่านี้ได้ลดทอนประสิทธิภาพของเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจเดิมๆ และยิ่งทำให้ *บิตคอยน์โดดเด่นขึ้นในฐานะเครื่องมือรักษามูลค่าทางการเงิน*

ผู้เชี่ยวชาญในตลาดต่างมองว่า ตอนนี้คือช่วงเวลาที่บิตคอยน์เริ่มเข้าสู่กระบวนการเชื่อมโยงกับเมกะเทรนด์ในระดับมหภาคมากขึ้น ซึ่งเมื่อพิจารณาจากวัฏจักรสภาพคล่องในช่วง 5–6 ปี และวัฏจักรระยะสั้นต่อเนื่องทุก 200 วัน บ่งชี้ว่าบิตคอยน์กำลังเข้าสู่จังหวะเดียวกับเศรษฐกิจโลกโดยตรง ซึ่งวัฏจักรนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะไปถึงจุดสูงสุดในเดือนกันยายน 2025 และนักวิเคราะห์บางรายถึงกับมองว่านี่คือจุดเริ่มต้นของ “การเข้าสู่กระแสหลักของคริปโต”

คำพูดของริชาร์ด เท็ง ไม่ใช่เพียงการเปรียบเปรย แต่เป็นการชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของสถานะบิตคอยน์ในระบบการเงินโลก บิตคอยน์จึงไม่ได้เป็นแค่ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ อีกต่อไป แต่กำลังก้าวขึ้นมาเป็น *สินทรัพย์ระดับโลก* ที่มีความเชื่อมโยงกับ *นโยบายเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย และความเคลื่อนไหวของตลาดเครดิต* อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้