ควอนตัมคอมพิวต์เขย่าคริปโต? สหรัฐฯ-สหราชอาณาจักรร่วมพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคต

สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมมือกันพัฒนา *เทคโนโลยีล้ำสมัย* อย่างควอนตัมคอมพิวติ้ง, ปัญญาประดิษฐ์(AI), พลังงานนิวเคลียร์ และเทคโนโลยีการสื่อสาร โดยข้อตกลงฉบับนี้เน้นย้ำถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างสองประเทศในหลากหลายสาขา ทั้งอวกาศ การป้องกันประเทศ ยาและเทคโนโลยีทางการแพทย์

แม้ว่า MOU ฉบับดังกล่าวจะไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย และไม่เปลี่ยนแปลงข้อตกลงเดิมระหว่างสองประเทศ แต่ก็เป็นฐานสำคัญสำหรับการเริ่มต้น *โครงการวิจัยร่วมในด้านเทคโนโลยีเกิดใหม่* ผ่านหน่วยงานและกระทรวงหลักของทั้งสองฝ่าย โดยจะจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจทันที เพื่อพัฒนา *มาตรฐานความเข้ากันได้* และองค์ประกอบสำคัญของ *ควอนตัมคอมพิวติ้ง* อย่างฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และอัลกอริธึม

ขณะที่ชุมชนคริปโตกำลังจับตาความเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก *ควอนตัมคอมพิวเตอร์* อาจเป็นภัยคุกคามต่อโครงสร้างความปลอดภัยของสกุลเงินดิจิทัลในอนาคต โดยเฉพาะกับบิตคอยน์(BTC) ซึ่งใช้ระบบเข้ารหัสที่อาจถูกทำลายได้โดยพลังการประมวลผลของควอนตัมคอมพิวเตอร์ *ความคิดเห็น* บางส่วนจากผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอถือกำเนิดขึ้นจริง อาจเกิดการขโมยคีย์ส่วนตัว การแฮ็กกระเป๋าสตางค์ ไปจนถึงความเชื่อมั่นต่อเครือข่ายคริปโตทั้งหมดถูกสั่นคลอน

ในมุมมองทางการเมือง ข้อตกลงนี้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์แย่งชิงความเป็นผู้นำในเทคโนโลยีระดับสูงของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* รัฐบาลสหรัฐฯ ให้น้ำหนักกับอุตสาหกรรมอนาคตอย่าง AI และควอนตัมคอมพิวติ้งในฐานะสินทรัพย์ทางการทูต โดยการจับมือกับสหราชอาณาจักรถูกมองว่าเป็นวิธีรับมือกับประเทศคู่แข่งอย่างจีน ขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักรก็ต้องการขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระดับโลกมากขึ้นหลังเบร็กซิต ทำให้ MOU ฉบับนี้นับเป็นความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ลงตัวของทั้งสองประเทศ.