รัฐบาลภูฏานสร้างแรงกดดันขายในตลาดคริปโต หลังมีการย้ายบิตคอยน์(BTC)มูลค่ากว่า 148.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,072 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 13 โดยเป็นช่วงเวลาหลังธนาคารกลางสหรัฐ(Fed)ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปี 2025 เหตุการณ์นี้กลายเป็นที่จับตามองเนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อความผันผวนของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะสั้น
จากการวิเคราะห์โดยแพลตฟอร์มดูข้อมูลบล็อกเชน Lookonchain พบว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลที่เชื่อว่าเป็นของรัฐบาลภูฏาน ได้โอนบิตคอยน์จำนวน 913 เหรียญไปยังกระเป๋าเงินใหม่ 2 ใบเมื่อวันที่ 13 เวลาท้องถิ่น โดยมีมูลค่าต่อเหรียญเฉลี่ยสูงกว่า 7 หมื่นบาท คิดเป็นมูลค่ารวมราว 148.63 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,072 ล้านบาท
แม้จะมีการย้ายเงินจำนวนดังกล่าว แต่กระเป๋าเงินเดียวกันยังคงถือครองบิตคอยน์กว่า 9,652 เหรียญ คิดเป็นราว 1.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.57 หมื่นล้านบาท) อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลยังไม่ได้ยืนยันว่ามีเป้าหมายเพื่อ ‘ขาย’ อย่างเป็นทางการ แต่หลายฝ่ายมองว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณเตรียมแปลงสินทรัพย์คริปโตเป็นเงินสด
หากภูฏานตัดสินใจขายบิตคอยน์ทั้งหมดที่ถืออยู่ อาจปล่อยสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อ *ราคา* ในระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ Fed เพิ่งเข้าสู่รอบลดดอกเบี้ยนโยบาย นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในตลาดทุนทั่วโลก ซึ่ง *คำสำคัญ* อย่าง ‘ดอกเบี้ย’ และ ‘สภาพคล่อง’ กลายเป็นตัวแปรหลักของการเคลื่อนไหวในตลาดคริปโต
มีความเห็นจากนักวิเคราะห์บางรายระบุว่า การเคลื่อนไหวของรัฐบาลในระดับประเทศมักส่งผลต่อ *จิตวิทยาตลาด* โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นประเทศที่ถือสินทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่น ภูฏาน ความเคลื่อนไหวใดๆ ที่เกิดขึ้น จึงอาจส่งผลต่อระดับราคาในช่วงสั้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
ก่อนหน้านี้รัฐบาลภูฏาน โดยเฉพาะภายใต้การบริหารของราชวงศ์ มีแนวโน้มดำเนินการลงทุนในคริปโตอย่างเงียบ ๆ ซึ่งการย้ายสินทรัพย์อย่างเปิดเผยในครั้งนี้ อาจชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในแนวนโยบายของภูฏานภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
*ความคิดเห็น*: แม้ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่านี่เป็นสัญญาณของการเทขายอย่างจริงจัง แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของตลาดคริปโตที่ตอบสนองไวต่อความเคลื่อนไหวจากผู้เล่นรายใหญ่
ความคิดเห็น 0