ริปเปิล(XRP) พุ่งขึ้นกว่า 18% ในช่วงครึ่งแรกของเดือนกันยายน โดยปรับตัวจากระดับประมาณ 2.70 ดอลลาร์(ราว 3,753 บาท) ไปแตะจุดสูงสุดที่ 3.18 ดอลลาร์(ประมาณ 4,420 บาท) ก่อนจะหยุดอยู่ที่แนวต้านสำคัญบริเวณ 3.20 ดอลลาร์(ประมาณ 4,448 บาท) ทั้งนี้ ราคาหลังจากปรับตัวลงจากโซน ‘ช่องว่างมูลค่ายุติธรรม’ (FVG) บนกราฟ 4 ชั่วโมง ก็ดูเหมือนกำลังกลับมาทดสอบแนวรับที่ระดับ 3.00 ดอลลาร์(ราว 4,170 บาท) อีกครั้ง
แม้หลังจากการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ราคาของริปเปิลก็ยังคงไม่สามารถฝ่าแนวต้าน 3.18 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ สะท้อนภาพ ‘ภาวะอ่อนแรงทางเทคนิค’ ที่เริ่มขัดขวางแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง แนวโน้มดังกล่าวยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อ XRP ล้มเหลวในการยืนเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบธรรมดา 50 วัน (SMA 50) ซึ่งอาจเปิดทางให้แรงขายรอบใหม่ไหลเข้ามาซ้ำเติม
ข้อมูลบนเครือข่ายบ่งชี้ว่า มีแรงซื้อสะสมอย่างหนาแน่นในช่วงราคาระหว่าง 2.70 – 3.00 ดอลลาร์ หรือราว 4,170 บาท ซึ่งอาจเป็น ‘โซนหลัก’ ที่กลุ่มนักลงทุนใช้ในการเข้าซื้อในระยะถัดไปเช่นกัน ในมุมมองเชิงเทคนิคยังมีนักวิเคราะห์บางรายระบุว่า โครงสร้างราคาที่มีลักษณะซ้ำเดิม หรือ ‘แฟรกตัล’ ที่ปรากฏนั้นอาจชี้ให้เห็นถึง ‘โอกาสฟื้นตัว 60 – 85%’ ในช่วงไตรมาส 4
แม้ภาพในระยะสั้นจะถูกถ่วงด้วยแรงขายจากปัจจัยทางเทคนิค แต่หากมองในมิติระยะกลางถึงยาว กลับพบว่าโซนแนวรับที่แข็งแรงและรูปแบบตลาดที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ยังอาจเป็นพื้นฐานสำคัญที่สนับสนุน ‘แนวโน้มขาขึ้น’ ได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ แนวต้านหลักถัดไปที่นักลงทุนควรจับตาคือบริเวณ 3.30 ดอลลาร์ หรือราว 4,587 บาท
ความคิดเห็น 0