ราคาของริปเปิล(XRP) ยังคงเคลื่อนไหวอยู่แถวระดับ 3 ดอลลาร์ ซึ่งอาจดูเหมือนว่ายังคงแนวโน้มขาขึ้นอยู่ แต่สัญญาณทางเทคนิคกลับบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการปรับฐานอย่างชัดเจน แม้ XRP จะทรงตัวที่ระดับ 3.03 ดอลลาร์ หลังจากที่เปิดตัวกองทุน ETF แบบสปอตบนตลาดตราสารอนุพันธ์ชิคาโก(CBOE) แต่ดัชนี ‘โบลินเจอร์แบนด์’ กำลังแคบลงซึ่งถือเป็นสัญญาณ ‘เตือน’ ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม
แม้ราคาปัจจุบันจะดูมั่นคง แต่จากมุมมองด้านการวิเคราะห์เทคนิคแล้ว ระดับ ‘3 ดอลลาร์’ กำลังเปลี่ยนจาก *แนวรับเป็นแนวต้าน* อย่างชัดเจน จุดกลางของแบนด์ที่ระดับ 3.05 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,240 บาท) เริ่มไม่สามารถพยุงราคาลงได้ ขณะที่ขอบล่างของแบนด์ถอยไปถึง 2.98 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,141 บาท) หากระดับนี้ไม่สามารถรักษาไว้ได้ แนวรับถัดไปอาจอยู่ที่ 2.90 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,031 บาท) และอาจร่วงลงถึง 2.70 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,753 บาท)
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคา XRP พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 3.15 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,379 บาท) แต่ถูกกดดันจากแรงขายจนต้องถอยลงมาปิดที่ 3.02 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,197 บาท) การหดตัวของแถบโบลินเจอร์ในระดับสูงและต่ำเร็วจนน่าจับตานั้น เป็นสัญญาณว่าอาจเข้าสู่ *ช่วงพักตัวในระยะสั้น*
ข้อมูลในอดีตยิ่งเสริมความกังวล โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายนที่ XRP ทำผลงานได้ไม่ดีนัก โดยมีการปรับตัวลดลงติดต่อกันสามปี ตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2021 และมีผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง 0.42% ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แม้ในเดือนนี้จะมีผลตอบแทนในช่วง 9% ก็ตาม แต่ *ความคิดเห็น* ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าผลตอบแทนนี้อาจไม่สามารถรักษาไว้ได้ในระยะยาว
แม้การเปิดตัว ETF แบบสปอตจะกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนในระยะสั้น แต่ก็ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้ XRP เข้าสู่ช่วงขาขึ้นในเชิงโครงสร้าง ความเสี่ยงจาก *สัญญาณอ่อนแอในเชิงเทคนิค* และสถิติในอดีตทำให้ราคาปัจจุบันของ XRP อาจถูกมองว่า ‘เกินมูลค่า’
สำหรับนักลงทุน สิ่งที่ควรระวังคือ *ความเสี่ยงหากระดับ 3 ดอลลาร์ถูกทะลุลง* ในสถานการณ์เช่นนี้ การบริหารพอร์ตและปรับสถานะการลงทุนอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งจำเป็น หาก XRP ต้องการกลับสู่ทิศทางขึ้นอีกครั้ง จะต้องอาศัยกระแสเงินทุนเข้ามาอย่างแข็งแกร่งและแรงหนุนจากตลาดในภาพรวม
ความคิดเห็น 0