แพลตฟอร์มดีลิเวรทีฟหน้าใหม่อย่าง ‘ไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid)’ กำลังดึงดูดความสนใจของตลาดคริปโตอย่างล้นหลาม หลังจากที่ยอด ‘ปริมาณซื้อขาย’ และความนิยมในคอลเลกชัน NFT ล่าสุดทะยานสูง โดยโทเคนประจำแพลตฟอร์มอย่าง HYPE ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และกำลังท้าทายแนวต้านทางเทคนิคที่สำคัญ
เมื่อวันที่ 24 บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน ‘บล็อกเชนเบลเลอร์(BlockchainBaller)’ รายงานว่า ปริมาณการซื้อขายรวมของไฮเปอร์ลิควิดพุ่งทะลุ 84,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 116.7 ล้านล้านวอน) ไปเรียบร้อยแล้ว โดยเฉลี่ยมีการซื้อขายรายวันมากกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่า *สภาพคล่องบนแพลตฟอร์มกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว* ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกมองว่าสะท้อนถึงภาวะตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์เชิงเก็งกำไรซึ่งมีการเปิดและปิดโพซิชันระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่า ‘ปริมาณการซื้อขายอนุพันธ์’ ของไฮเปอร์ลิควิดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นกว่า 19% แตะระดับ 1,820 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.53 ล้านล้านวอน) ขณะที่ ‘โอเพ่นอินเทอเรสต์’ หรือสัญญาค้างส่งมอบเพิ่มขึ้นเพียง 1% อยู่ที่ 2,280 ล้านดอลลาร์ เท่ากับว่า *นักเทรดส่วนใหญ่ยังคงเน้นเทรดสั้นไม่ใช่ถือยาว* ซึ่งสะท้อนภาพโครงสร้างตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยนักเก็งกำไรในระยะสั้นเป็นหลัก
ในแง่ระบบ NFT ไฮเปอร์ลิควิดกำลังเติบโตเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยเมื่อวันที่ 28 กันยายน แพลตฟอร์มได้เปิดตัว NFT ซีรีส์ใหม่ในชื่อ ‘ไฮเปอร์(Hypurr) NFT’ บนเครือข่าย HyperEVM โดยในจำนวนทั้งหมด 4,600 ชิ้น มี 4,313 ชิ้นที่ถูกแจกให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม Genesis Event เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ขณะที่ที่เหลือเป็นส่วนที่จัดสรรให้กับทีมพัฒนาและชุมชน NFT เหล่านี้ถูกออกแบบให้ ‘เชื่อมโยงกับเลเยอร์ความลิควิดบนเชน’ และสามารถบูรณาการกับแอปพลิเคชันจริง ทำให้มีคุณลักษณะมากกว่าแค่สินทรัพย์สะสม
บนมาร์เก็ตเพลส NFT อย่าง OpenSea คอลเลกชัน Hypurr ถูกตั้งราคา *ฟลอร์ไพรซ์* เริ่มต้นที่ 1,458 HYPE หรือราว 68,700 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.55 ล้านบาท) โดยมีบางชิ้นที่ถูกขายในราคาสูงถึง 467,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 64.9 ล้านบาท) อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยอย่าง แจ็คXBT(ZachXBT) เปิดเผยว่า มี NFT จำนวน 8 ชิ้นถูกขโมยหลังการเปิดตัวไม่นาน โดยประเมินความเสียหายไว้ที่ราว 400,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 55.6 ล้านบาท)
ด้านราคาของ HYPE โทเคนหลักของแพลตฟอร์มก็กำลังขยับขึ้นตามแนวโน้มปริมาณซื้อขาย โดยล่าสุดมีการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 47 ดอลลาร์ (ประมาณ 65,400 บาท) โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5% จากวันก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ตามยังต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 59 ดอลลาร์ซึ่งเคยทำได้เมื่อวันที่ 18 กันยายน ราว 21% สัญญาณทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่าราคาสัมผัสกับค่าเฉลี่ย 100 วันและ 200 วัน อีกทั้งค่าเฉลี่ยระยะสั้นยังตัดขึ้นเหนือเส้นระยะยาวเป็นสัญญาณว่า ‘โมเมนตัมขาขึ้นยังคงแข็งแกร่ง’
อย่างไรก็ดีจากดัชนี stochastic RSI ที่ทะลุระดับ 95 ก็เป็นสัญญาณว่าเข้าสู่เขต ‘ซื้อมากเกินไป’ ซึ่งอาจนำไปสู่แรงขายทำกำไรในระยะสั้น สะท้อนถึงความจำเป็นที่ผู้ลงทุนควรระวังต่อความเป็นไปได้ของ ‘การพักฐาน’ ในช่วงข้างหน้า
เมื่อพิจารณาถึงสามปัจจัยสำคัญ ทั้ง *การเติบโตของปริมาณซื้อขาย, ความสำเร็จของ NFT และทิศทางเทคนิคที่เป็นขาขึ้น* ไฮเปอร์ลิควิดกำลังอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางสัญญาณความร้อนแรงและความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น นักลงทุนควรเข้าตลาดด้วย ‘ความระมัดระวัง’ และมีแผนรับมือความเสี่ยงอยู่เสมอ
ความคิดเห็น 0