ราคาอีเธอเรียม(ETH) ล่าสุดกำลังแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบหลังจากเกิดการรีบาวด์ในช่วงก่อนหน้า โดยมีแรงซื้อและแรงขายช่วงชิงกันอย่างสูสี ส่งผลให้ภาวะ ‘จิตวิทยาตลาด’ ยังคงไม่ชัดเจน ทั้งนี้ โครงสร้างตลาดในปัจจุบันบ่งชี้ถึง ‘ความเป็นไปได้ในการเคลื่อนไหวรุนแรง’ ทั้งขาขึ้นและขาลง โดย ‘แนวรับหลัก’ จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญของทิศทางระยะกลางถึงระยะยาว
อ้างอิงจากแผนภูมิรายวัน อีเธอเรียมกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราคาประมาณ 6.39 ล้านวอน (4,600 ดอลลาร์) ถึง 6.53 ล้านวอน (4,700 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นเขต ‘เสนอขาย’ ขณะที่ด้านล่างนั้นอยู่ในช่วง 4.73 ล้านวอน (3,400 ดอลลาร์) ถึง 4.865 ล้านวอน (3,500 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นเขต ‘แรงซื้อ’ นับตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา อีเธอเรียมได้หลุดจากเส้นแนวโน้มที่เคยทำหน้าที่เป็นแนวรับ และกลายมาเป็นแนวต้านแทน ทำให้ ‘แรงขาย’ เริ่มกลับมาเป็นฝ่ายเหนือกว่า
ขณะเดียวกัน ‘เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน’ ที่ระดับราว 5.71 ล้านวอน (4,100 ดอลลาร์) ถึง 5.84 ล้านวอน (4,200 ดอลลาร์) กำลังทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำคัญ ในทางกลับกัน ‘เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน’ บริเวณ 4.31 ล้านวอน (3,100 ดอลลาร์) ถือเป็น ‘แนวรับสุดท้าย’ ของโครงสร้างขาลง หากตลาดยังสามารถยืนเหนือระดับ 4.73 ล้านวอน (3,400 ดอลลาร์) ได้ ก็อาจยังคงแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้ แต่หากหลุด แนวรับถัดไปอาจอยู่ลึกถึงประมาณ 4.17 ล้านวอน (3,000 ดอลลาร์)
สำหรับแผนภูมิระยะเวลา 4 ชั่วโมง ราคากำลังก่อตัวเป็น ‘ลิ่มขาลง’ โดยเคลื่อนไหวเข้าสู่จุดบีบอัดที่สำคัญ หากสามารถทะลุช่วง 5.56 ล้านวอน (4,000 ดอลลาร์) ถึง 5.71 ล้านวอน (4,100 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นบริเวณแนวต้านระยะสั้นและแนวโน้มขาขึ้นได้ ก็อาจเห็นการรีบาวด์อย่างรวดเร็วไปยังระดับ 6.11 ล้านวอน (4,400 ดอลลาร์) ถึง 6.39 ล้านวอน (4,600 ดอลลาร์) ได้ไม่ยาก แต่หากหลุดระดับล่างของลิ่มที่ 5.14 ล้านวอน (3,700 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นแนวรับหลัก ก็มีโอกาสถดถอยลงไปถึง 4.73 ล้านวอน (3,400 ดอลลาร์)
ด้านข้อมูล ‘ออนเชน’ พบว่าตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปริมาณอีเธอเรียมในกระดานแลกเปลี่ยนลดลงต่อเนื่อง บ่งบอกถึงแรงซื้อ ‘จากกลุ่มวาฬ’ ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยหลังวันที่ 15 ตุลาคม ราคา ETH มีเสถียรภาพเหนือ 5.56 ล้านวอน (4,000 ดอลลาร์) แม้ตลาดยังไม่เคลื่อนไหวรุนแรง แต่ ‘ออร์เดอร์ซื้อของนักลงทุนรายใหญ่’ กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงกลยุทธ์ ‘สะสมอย่างเป็นระบบ’ จากผู้เล่นรายสำคัญ
ในอดีตช่วงสิ้นปี 2020 สัญญาณแบบเดียวกันนี้ก็เคยเกิดขึ้น ก่อนที่ ETH จะเข้าสู่ช่วง ‘ตลาดกระทิงครั้งใหญ่’ ที่มีการถอนเหรียญออกจากตลาดแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง หากการจำกัดอุปทานยังคงดำเนินต่อไป และเมื่อความต้องการจาก ETF กลับมาอีกครั้ง ก็อาจจุดชนวนให้เกิด ‘แรงพุ่งขึ้นของราคา’ อย่างรุนแรงอีกระลอกหนึ่งได้
สรุปแล้ว อีเธอเรียมในตอนนี้กำลังยืนอยู่บน ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ที่อาจตัดสินทิศทางของตลาดในอนาคต การเคลื่อนไหวของราคาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ นักลงทุนจึงควรจับตา ‘โครงสร้างของแรงซื้อ-ขาย’ และพฤติกรรมของนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดด้วยความระมัดระวัง
ความคิดเห็น 0