ลุ้น ETF ริปเปิล(XRP) เปิดตัว 13 พ.ย. ท่ามกลางตลาดคริปโตผันผวน

ท่ามกลางตลาดคริปโตที่ยังคงผันผวน นักลงทุนต่างจับตาสามประเด็นสำคัญที่กำลังสั่นสะเทือนวงการ โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวกองทุน ETF ของริปเปิล(XRP) ที่สร้างความคาดหวังให้กับชุมชนผู้ถือครอง XRP อย่างมาก

หนึ่งในข่าวที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือการที่กองทุนคาเนอรี(Canary Funds) ได้ยื่นเอกสาร S-1 ฉบับแก้ไขต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เพื่อเดินหน้าการเปิดตัวกองทุน ETF แบบสปอตที่อิง XRP โดยครั้งนี้มีการลบ ‘ข้อกำหนดการชะลอการบังคับใช้’ ออก ส่งผลให้กองทุนจะมีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติในอีก 20 วันโดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติจาก SEC อีกขั้น หากไม่มีอุปสรรคเพิ่มเติม คาดว่ากองทุนนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 พฤศจิกายน ทั้งนี้ ETF ดังกล่าวเคยถูกรวมไว้ในบัญชีของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งสหรัฐ (DTCC) มาก่อนแล้ว อีกเพียงขั้นตอนเดียวคือการอนุมัติแบบฟอร์ม 8-A จากแนสแด็ก ซึ่งจะเปิดทางให้สามารถเริ่มต้นการซื้อขายได้ทันที

ในขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของราคาบิตคอยน์(BTC) ที่ปรับตัวลดลงก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนจับตา โดยไมเคิล เซย์เลอร์ ซีอีโอของสเตรทิจี (Strategy) ได้แสดงจุดยืนเกี่ยวกับความผันผวนครั้งนี้ในเชิงสัญลักษณ์ เขาโพสต์ภาพตัวเองนั่งอยู่หน้าโต๊ะหมากรุกและนาฬิกาทราย พร้อมสื่อถึงมุมมองระยะยาว และนิยามสถานการณ์ปัจจุบันว่าเป็น ‘การต่อสู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของตลาดขาขึ้นในอนาคต’ *ความคิดเห็น: ท่าทีของเซย์เลอร์ดูเหมือนยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของบิตคอยน์ แม้ภาวะตลาดจะไม่แน่นอนก็ตาม*

ขณะที่ราคาเอดา(ADA) ยังคงเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง โดยในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ปรับฐานลงจากจุดสูงสุดที่ 0.693 ดอลลาร์ และล่าสุดมีการปรากฏสัญญาณ ‘เดธครอส (Death Cross)’ บนกราฟรายชั่วโมง ซึ่งคือการที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 ลงต่ำกว่าเส้น 200 สะท้อนให้เห็นภาวะตลาดหมีอย่างชัดเจน นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ ‘Ali’ ระบุว่า ในช่วง 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการเทขายเอดากว่า 100 ล้านเหรียญโดยนักลงทุนรายใหญ่ *ความคิดเห็น: แรงขายจากกลุ่ม ‘วาฬ’ เป็นสัญญาณเตือนถึงความไม่มั่นใจในระยะสั้นของนักลงทุนรายใหญ่*

ทั้งสามประเด็นนี้อาจสร้างผลกระทบสำคัญต่อทิศทางของตลาดคริปโตในระยะต่อไป โดยเฉพาะการอนุมัติ ETF ของริปเปิล ซึ่งอาจกลายเป็น ‘ตัวเร่ง’ ให้ราคาทั้ง XRP และเหรียญทางเลือกอื่นๆ เพิ่มขึ้น ทว่า หากแนวโน้มความไม่แน่นอนในบิตคอยน์และเอดายังคงกดดันตลาด ปริมาณความผันผวนก็อาจเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ