ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการวิเคราะห์ว่า ตลาดอาจเข้าสู่ ‘ภาวะหมีเชิงโครงสร้าง’ โดยไม่มีปัจจัยลบระยะสั้นที่ชัดเจน แต่ราคากลับร่วงกว่า 25% หลายฝ่ายจึงตั้งข้อสังเกตว่า ปัญหานี้อาจเกิดจากความบกพร่องเชิงระบบภายในตลาดคริปโต
รายงานของโคบี้ซิเลตเตอร์(Kobeissi Letter) ระบุว่า การปรับฐานในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การปรับฐานทางเทคนิคทั่วไป แต่เป็น ‘การอ่อนตัวของตลาดเชิงโครงสร้างและกลไก’ หลังบิตคอยน์อ่อนค่าลงจากราคาสูงสุดในเดือนตุลาคมเกือบ 25% มาอยู่ที่ประมาณ 93,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.26 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ครั้งนี้ไม่มี ‘ปัจจัยลบพื้นฐาน’ เข้ามากดดันชัดเจน ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนก็คืบหน้า นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเคยกล่าวว่า “การทำให้สหรัฐเป็นผู้นำในแวดวงคริปโตเป็นภารกิจอันดับแรก” ซึ่งสะท้อนท่าทีบวกจากภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมเป็นต้นมา แรงขายจากนักลงทุนสถาบันเริ่มทวีความรุนแรง โดยโคบี้ซิเลตเตอร์รายงานว่า สัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน มีเงินไหลออกจากกองทุนคริปโตสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.63 หมื่นล้านบาท นับเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาล
จุดอ่อนหลักของตลาดอยู่ที่การใช้ ‘เลเวอเรจ’ อย่างหนัก เมื่อแรงขายจากสถาบันเริ่มขึ้น ความเคลื่อนไหวของเหล่านักลงทุนที่ใช้เลเวอเรจก็ถูกลากให้เกิดการบังคับปิดสถานะทั้งฝั่งชอร์ตและลองอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ในวันที่ 10 ตุลาคม วันเดียวมีมูลค่าการบังคับปิดสถานะสูงถึง 19,200 ล้านดอลลาร์ หรือราว 26 ล้านล้านบาท ทำให้ราคาบิตคอยน์ร่วงลงต่อเนื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า ตลาดคริปโตยังมี ‘ความเปราะบางในเชิงโครงสร้าง’ มากกว่าที่หลายคนคาด
นอกจากนี้ ขณะนี้สภาพคล่องในตลาดเริ่มบางลง รายงานชี้ว่าในช่วง 16 วันที่ผ่านมา มีอย่างน้อย 3 วันที่มูลค่าการล้างพอร์ตทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ และการล้างพอร์ตมูลค่าเกิน 500 ล้านดอลลาร์ต่อวัน กลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งนำไปสู่ ‘ปฏิกิริยารุนแรง’ ของราคาแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในตลาด
แม้จะมีความเสี่ยงเหล่านี้ ทีมวิเคราะห์ของโคบี้ซิเลตเตอร์ยังคงมองโลกในแง่ดี โดยระบุว่า “แม้จะอยู่ในตลาดขาลงเชิงโครงสร้าง แต่ ‘พื้นฐานของตลาด’ ได้ถูกปรับปรุงดีขึ้นแล้ว” พร้อมเน้นว่า ความบิดเบือนที่เกิดจากการล้างพอร์ตจะถูกจัดระเบียบในที่สุด และเชื่อว่าการปรับฐานครั้งนี้อาจอยู่ใกล้จุดต่ำสุดแล้ว
“ถ้าตลาดคริปโตมีประสิทธิภาพจริง การบิดเบี้ยวเหล่านี้จะถูกแก้ไขเอง” รายงานระบุ พร้อมฝากมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนระยะยาว การปรับฐานในลักษณะนี้อาจเป็นโอกาสสำคัญในการเข้าสะสม โดยเฉพาะเมื่อตลาดกำลังเดินหน้าเข้าสู่เฟสปรับโครงสร้างใหม่ในระยะยาว
ความคิดเห็น 0