ICE เตรียมลงทุนมูนเพย์(MoonPay) ดันมูลค่าพุ่ง 5 พันล้านดอลลาร์ หนุนตลาดคริปโตสู่ระบบการเงินหลัก

บริษัทแม่ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กอย่าง อินเตอร์คอนติเนนตัล เอ็กซ์เชนจ์(ICE) กำลังพิจารณาการลงทุนในมูนเพย์(MoonPay) บริษัทโครงสร้างพื้นฐานระบบชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี โดยรอบการระดมทุนล่าสุดนี้ประเมินมูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 47% จากการประเมินครั้งก่อน ซึ่งสะท้อนสัญญาณว่า ‘คริปโต’ กำลังกลายเป็นสนามที่สถาบันการเงินดั้งเดิมเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ

ICE ไม่ใช่หน้าใหม่ในโลกคริปโต ก่อนหน้านี้ได้จัดตั้งแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองชื่อว่า แบค(Bakkt) และยังเคยลงทุนกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในโพลีมาร์เก็ต แพลตฟอร์มตลาดพยากรณ์ที่ได้รับความสนใจจากสังคมช่วงการเลือกตั้งในสหรัฐ อีกทั้งในเดือนสิงหาคม ICE ยังจับมือกับเชนลิงก์(LINK) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการเงินแบบ ‘เรียลไทม์’ ของตนผ่านออราเคิลของเชนลิงก์ไปยังโลกดีไฟ (DeFi) ส่งข้อมูลราคาสินทรัพย์ เช่น ค่าเงินและทองคำ ไปยังผู้ใช้บริการในแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์

สำหรับมูนเพย์ การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทกำลังเปลี่ยนผ่านจากแพลตฟอร์มออนแรมป์ธรรมดาสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานแบบเต็มรูปแบบ ไม่เพียงซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังสามารถดูแลทรัพย์สินของลูกค้าในระดับสถาบันได้ ล่าสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา มูนเพย์ได้รับใบอนุญาต ‘ทรัสต์เพื่อวัตถุประสงค์จำกัด’ จากสำนักงานกำกับดูแลทางการเงินแห่งรัฐนิวยอร์ก(NYDFS) ซึ่งถือเป็นใบอนุญาตระดับสูงที่ช่วยให้บริษัทเก็บรักษาทรัพย์สินและทำธุรกรรมขนาดใหญ่ได้โดยถูกกฎหมาย

‘คำ’อนุญาตดังกล่าวทำให้มูนเพย์กลายเป็นคู่แข่งตัวจริงของ โคอินเบส และ เพย์พาล ซึ่งต่างก็ได้รับการยอมรับในตลาดนิวยอร์กว่าเป็นผู้ให้ความคุ้มครองผู้บริโภคและมีระบบป้องกันการฟอกเงินที่เข้มงวด ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามูนเพย์สามารถผ่านเกณฑ์เหล่านี้ได้เช่นกัน

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาคือ การที่มูนเพย์ประกาศเมื่อวันที่ 18 ว่า แคโรไลน์ ฟาม(Caroline Pham) อดีตรักษาการประธานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายล่วงหน้าแห่งสหรัฐ(CFTC) จะเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย (CLO) หลังจากมีการอนุมัติประธานคนใหม่อย่างเป็นทางการ ฟามมีประสบการณ์ทั้งในแวดวงวาณิชธนกิจจากซิตี้กรุ๊ป และได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานกำกับดูแลตลาดอนุพันธ์ เธอให้ความเห็นว่า “คาดหวังว่าจะถ่ายทอดอำนาจได้ราบรื่น และเห็นศักยภาพของมูนเพย์อย่างมาก”

‘ความคิดเห็น’ การดึงตัวบุคคลระดับสูงจากหน่วยงานกำกับดูแล เข้ามาบริหารจัดการความเสี่ยงและกลยุทธ์ด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ถือเป็นก้าวสำคัญของมูนเพย์ในการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตลาดและผู้ใช้งาน โดยตั้งแต่ต้นปีมานี้ บริษัทได้ขยายพื้นที่ขอใบอนุญาตไปยังรัฐต่างๆ รวมถึงได้ใบอนุญาตโอนเงินจากรัฐวิสคอนซินแล้วเรียบร้อย

ในมิติของความร่วมมือ มูนเพย์กำลังเร่งกระจายบริการไปยังแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์มากขึ้น ตัวอย่างเช่น ความร่วมมือกับเอกโซดัส(Exodus) ในการเปิดตัวเหรียญเสถียรที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐใหม่ โดย JP ริชาร์ดสัน ซีอีโอของเอกโซดัส ชี้ว่า “UX ของสเตเบิลคอยน์ในตอนนี้ยังไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน และความร่วมมือกับมูนเพย์จะทำให้อุตสาหกรรมเข้าใกล้การใช้งานจริงมากขึ้น”

พร้อมกันนั้น ยังมีการจับมือกับ แพลตฟอร์มวิดีโอ รัมเบิล(Rumble) เพื่อนำเสนอ ‘รัมเบิลวอลเล็ต’ ซึ่งจะช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถรับรายได้เป็นเงินคริปโตโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์อย่างยูทูบหรือเพย์พาล ทั้งยังรองรับการใช้งานเหรียญอย่าง บิตคอยน์(BTC) และคริปโตอื่นๆ อีกด้วย

ในภาพรวม ICE กำลังส่งสัญญาณชัดว่าต้องการหลอมรวมพื้นที่ตลาดการเงินดั้งเดิมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ตั้งแต่ข้อมูลการเงินแบบเรียลไทม์, แพลตฟอร์มตลาดฟิวเจอร์ส ไปจนถึงผู้ให้บริการชำระเงินและดูแลสินทรัพย์อย่างมูนเพย์

‘คำ’การลงทุนของ ICE หากสำเร็จ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมบริการระหว่าง MoonPay, แบค(Bakkt) และแม้แต่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ทำให้การเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเรื่องธรรมดาในระบบการเงินระดับโลก นำไปสู่การขยายตัวอย่างมั่นคงในกรอบกฎหมายที่ชัดเจน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งานในระยะยาว