ญี่ปุ่นเตรียมยกเครื่องระบบภาษีคริปโต เริ่มปี 2026 ชูแนวแยกเก็บภาษีเหมือนหุ้น
ญี่ปุ่นเตรียมเริ่มต้น *ปรับปรุงระบบภาษีคริปโตครั้งใหญ่* ในปี 2026 โดยเปลี่ยนจากการจัดเก็บภาษีแบบ ‘รายได้เบ็ดเตล็ด’ ซึ่งมีอัตราสูงสุดถึง 55% ไปสู่การจัดเก็บภาษีแบบ ‘แยกเฉพาะ’ เช่นเดียวกับหุ้น ซึ่งจะช่วยลดภาระผู้ลงทุนลงอย่างมีนัย
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่นและพรรคฟื้นฟูญี่ปุ่น ได้เผยร่างนโยบาย ‘การปฏิรูปภาษีสำหรับปีงบประมาณ 2026’ โดยมีแผนจัดทำโครงสร้างภาษีแยกเฉพาะสำหรับรายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมจัดประเภท *คริปโตเคอร์เรนซี* ใหม่ให้เป็น ‘ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน’ ตามรายงานจาก CoinPost เมื่อวันที่ 26
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นถือว่ารายได้จากการเทรดคริปโตทั้งหมดเป็นรายได้เบ็ดเตล็ด จัดเก็บภาษีรวมกับรายได้อื่น และอาจต้องเสียภาษีสูงสุดถึง 55% ขึ้นอยู่กับระดับรายได้ แต่หลังจากมีการปฏิรูป รายได้จากการซื้อขายแบบเช่น สป็อตเทรดดิ้ง, อนุพันธ์ และ ETF คริปโต จะถูกจัดเก็บภาษีแบบ ‘แยกเฉพาะ’ ซึ่งคล้ายกับกฎเกณฑ์การเก็บภาษีของสินทรัพย์การเงินแบบเดิม *ความคิดเห็น: การปรับเปลี่ยนนี้ถือเป็นสัญญาณบวกต่อนักลงทุนรายย่อยที่เคยวิจารณ์ระบบเดิมว่าเอื้อเฟื้อรายได้รัฐบาลเกินควร*
อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ในหมวดกิจกรรมบางประเภท โดยเฉพาะ *สเตกกิ้ง* และ *NFT* ซึ่งไม่มีการกล่าวถึงในร่างปฏิรูป ฉะนั้น รายได้จากการได้รับผลตอบแทนด้วยโทเคนแบบ staking หรือ lending อาจยังคงต้องเสียภาษีในฐานะรายได้เบ็ดเตล็ด กล่าวคือ เสียภาษี ณ ราคาตลาดขณะได้รับ และหากขายออกในภายหลังยังต้องเสีย *ภาษีเงินได้จากการเพิ่มทุน* อีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ NFT ก็ไม่ได้รวมอยู่ในแผนปรับภาษีอย่างชัดเจน สะท้อนว่าอาจยังคงอยู่ภายใต้ระบบภาษีแบบเดิม
นอกจากนี้ ภายนอกกรอบข้อเสนอใหญ่ ยังมีรายละเอียดสำคัญที่ควรจับตา เช่น การจำกัดการบังคับใช้เฉพาะกับ *“คริปโตที่ระบุไว้โดยรัฐบาล”* หรือ designated crypto assets ที่ระบุว่าต้องสอดคล้องกับเกณฑ์บางประการ เช่น การอยู่ในรายการสินทรัพย์ของกระดานซื้อขายคริปโตที่ได้รับการรับรอง ซึ่งหมายความว่าภาษีแบบแยกนี้จะไม่ครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด
ในด้านประโยชน์เพิ่มเติม ร่างปฏิรูปยังเปิดทางให้ *ขาดทุนจากการลงทุนคริปโตสามารถนำไปชดเชยกับกำไรในอนาคต* ได้ภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเทียบเท่าได้กับการซื้อขายหุ้นและเงินตราต่างประเทศ ถือเป็นการนำคริปโตเข้าสู่ระบบภาษีและการเงินอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึง *ความเป็นไปได้ของการเก็บภาษีจากผลกำไรยังไม่เกิดขึ้นจริง (unrealized gains)* สำหรับผู้ที่ถือครอง *คริปโตในประเทศญี่ปุ่นและย้ายถิ่นฐาน* ไปต่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตั้งใจควบคุมคริปโตให้เสมือนสินทรัพย์ทางการเงินโดยสมบูรณ์ ตามแนวทางของผลิตภัณฑ์ทางการเงินในระบบดั้งเดิม
*ความคิดเห็น: การปฏิรูปภาษีในครั้งนี้นับเป็นสัญญาณชัดเจนจากรัฐบาลญี่ปุ่นว่ากำลังพยายามนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบการเงินที่มั่นคงและยั่งยืน ผ่านกรอบภาษีใหม่ที่โปร่งใสและมีทิศทางน่าคาดการณ์มากขึ้น*
ความคิดเห็น 0