บิตคอยน์(BTC) กำลังเข้าสู่ช่วงปลายของรูปแบบสามเหลี่ยมสมมาตรที่ก่อตัวมานานถึง 6 สัปดาห์ ทำให้นักลงทุนจับตาแนวโน้มการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปอย่างใกล้ชิด โดยหากราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปได้ อาจมีโอกาสพุ่งทะลุระดับ *100,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 3.6 ล้านบาท) แต่หากหลุดแนวรับ ก็มีโอกาสถอยลงมาสู่ระดับ *ช่วงกลางของ 70,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 2.5 ล้านบาท)
ขณะนี้ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวผันผวนอยู่ที่บริเวณ *88,500 ดอลลาร์* (ประมาณ 3.2 ล้านบาท) ภายใต้โครงสร้างรูปแบบ *สามเหลี่ยมสมมาตร (Symmetric Triangle)* ที่สะท้อนถึงแรงซื้อและขายที่ตึงเครียดเท่าเทียมกัน ตลาดจึงคาดว่าราคาจะเกิดการ ‘ทะลุ’ ไปยังขาขึ้นหรือขาลงในเร็ววันนี้
*The Swing Trader* นักวิเคราะห์ชื่อดังกล่าวว่า บิตคอยน์ได้ก่อตัวเป็นรูปแบบ *Pennant* ตลอด 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรูปแบบการสะสมกำลังราคาเพื่อทะลุออกไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรุนแรง โดยระบุว่า หากราคาทะลุขึ้น มีแนวโน้มจะปรับขึ้นได้ถึง *15%* แตะเป้าหมายที่ *100,500 ดอลลาร์* (ประมาณ 3.63 ล้านบาท) ในทางกลับกัน หากราคาทะลุลง เป้าหมายที่อาจไปแตะคือ *ประมาณ 75,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 2.7 ล้านบาท)
ด้าน *Titan of Crypto* ให้ความเห็นว่าบิตคอยน์กำลังสะสมอยู่ในช่วงราคา *80,000-94,000 ดอลลาร์* และเตือนว่า หากสภาพคล่องในฝั่งบนถูกดูดซับไปก่อน ก็อาจเกิดภาวะ *ขายทำกำไร* ตามมาอย่างรวดเร็ว พร้อมแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวัง
นักวิเคราะห์อีกคนหนึ่ง *เจสัน พิซซิโน* มองว่าการปรับฐานระยะสั้นยังไม่สิ้นสุด โดยเตือนถึงการเกิด *bear flag* หลังจากขาลงล่าสุด และตั้งเป้าหมายการปรับฐานครั้งต่อไปไว้ที่ช่วง *70,000-76,000 ดอลลาร์* (ราว 2.5 - 2.73 ล้านบาท)
ในด้านปัจจัยพื้นฐาน ตลาดกำลังอยู่ในภาวะนิ่งเงียบแต่ *นักลงทุนสถาบัน* ยังคงสะสมบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง โดย *ลาร์ค เดวิส* นักวิเคราะห์ด้านคริปโต รายงานว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ ขณะนี้ถือครองบิตคอยน์รวมกว่า *1.09 ล้านเหรียญ* คิดเป็น *5.1% ของอุปทานทั้งหมด*
ในกลุ่มที่ซื้อเพิ่มมากที่สุดคือ *Strategy* ที่เข้าซื้อเพิ่ม 1,229 เหรียญ ทำให้มียอดถือครองรวม 672,497 เหรียญ ขณะที่ *MetaPlanet* บริษัทญี่ปุ่นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพิ่มการถือครองเป็น 35,102 เหรียญในเดือนธันวาคมเพียงเดือนเดียว ส่วนบริษัทอื่น ๆ อย่าง *Bitdeer Technologies*, *Ana Holdings* และ *Cango* ก็ยังคงลงทุนอย่างแข็งแรงเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่าแม้รายย่อยจะลังเล แต่นักลงทุนรายใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในแนวโน้มระยะยาว
จากด้านเทคนิค ตัวชี้วัดสำคัญอย่าง *MACD* ส่งสัญญาณบวก โดย *Ash Crypto* วิเคราะห์ว่า ตัวชี้วัดนี้ได้ปรับตัวกลับไปยังระดับเดียวกับช่วงจุดต่ำสุดในปี 2022 และกำลังแสดงรูปแบบ *bullish divergence* หรือ “การเบี่ยงเบนทางบวก” ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความกดดันขาลงอาจเริ่มคลี่คลาย
“ในอดีต การเคลื่อนไหวลักษณะนี้มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวใหญ่” Ash เสริม อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่า บิตคอยน์ยังไม่สามารถฝ่าฝืนแนวต้านที่ *90,000 ดอลลาร์* ได้ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงควรกระโจนเข้าตลาดอย่างระมัดระวัง
ในมุมระยะยาว ภาพการคาดการณ์ยังคงแยกเป็นสองมุมมอง โดย *ฮาชิบ คอเรชี* จากบริษัทลงทุน *Dragonfly* ประเมินว่า หากแนวโน้มยังคงแข็งแกร่ง บิตคอยน์มีโอกาสแตะ *150,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 5.4 ล้านบาท) ได้ภายในปี 2026 อย่างไรก็ตาม เขาก็ยอมรับว่าในระยะสั้นตลาดยังคงขยับภายใต้กรอบของสามเหลี่ยมที่ตึงตัว และการทะลุออกจากรูปแบบนี้อาจเป็นตัวกำหนดทิศทางของปีนี้
ภายใต้สภาพตลาดปลายปีที่ ‘เงียบ’ แต่แฝงไปด้วยแรงสะสมจากกลุ่มทุนใหญ่ บิตคอยน์อยู่ในช่วงตึงเครียดที่สุดช่วงหนึ่งของปี นักลงทุนจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นทุกเมื่อ โดยเฉพาะการทะลุระดับราคาหลักที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า
ความคิดเห็น 0