Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) เผชิญแนวต้าน 90,000 ดอลลาร์ แม้เงินไหลเข้า ETF ทะลุ 355 ล้านดอลลาร์

บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 86,500–90,000 ดอลลาร์ แม้ในวันสุดท้ายของปี เมื่อวันที่ 31 ตามเวลาในสหรัฐ โดยปิดตลาดที่ราว 88,700 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 0.9% จากวันก่อนหน้า แต่แนวต้านที่ระดับ 90,000 ดอลลาร์ยังคงไม่สามารถทะลุผ่านได้ตลอดสัปดาห์สุดท้ายของปี 2024 ความผันผวนของราคาในช่วงนี้มีสาเหตุมาจาก ‘สภาพคล่องในตลาดที่ลดลงช่วงปลายปี’ ประกอบกับการไหลออกของเงินทุนจากกองทุน ETF บิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง

ตามข้อมูลจาก Coinbase และ CoinMarketCap พบว่า แม้จะมีช่วงหนึ่งเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ที่ราคาทะลุระดับ 89,000 ดอลลาร์จากแรงซื้อคืนของนักลงทุนที่ขายชอร์ต (Short covering) แต่ยังไม่มีแรงซื้อใหม่เข้ามาสนับสนุน ทำให้แนวโน้มราคาไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้

อีกปัจจัยที่ส่งผลต่อความผันผวนคือ ‘ปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง’ โดยบิตคอยน์ในตลาดสหรัฐมีปริมาณซื้อขายในช่วง 24 ชั่วโมงอยู่ที่ราว 3.4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4.9 ล้านล้านวอน ซึ่งลดลงมากกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับช่วงต้นเดือนตุลาคมที่มีการซื้อขายสูงสุดกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันนั้น ตลาดเคยได้รับแรงเขย่าจากเหตุการณ์เทขายจากการใช้เลเวอเรจเกินระดับ (Leverage liquidation) เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่รู้จักในชื่อ "ช็อกจากการชำระบัญชี"

ทั้งนี้ สัญญาณจากตลาดอนุพันธ์ เช่น ‘อัตราการระดมทุน (Funding Rate)’ และ ‘ปริมาณสัญญาคงค้าง (Open Interest)’ ก็ยังอยู่ในระดับต่ำตั้งแต่เดือนตุลาคม และตลอดเดือนธันวาคม เน้นรูปแบบการเคลื่อนไหวในกรอบมากกว่าการมีแนวโน้มที่ชัดเจน

เมื่อพิจารณาจากทิศทางเงินทุนใน ETF บิตคอยน์ พบว่าก็สะท้อนแนวโน้มตลาดเช่นกัน จากข้อมูลของ CoinShares ระบุว่า ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม สิ้นสุดวันที่ 29 มีเงินทุนไหลออกจากผลิตภัณฑ์ลงทุนในบิตคอยน์กว่า 443 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดเงินไหลออกสุทธิสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคมทะลุ 3.2 พันล้านดอลลาร์

ทว่าในวันที่ 31 ธันวาคม ได้เกิด ‘แรงหนุนชั่วคราว’ เมื่อมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิจาก ETF บิตคอยน์ในสหรัฐกว่า 355 ล้านดอลลาร์ เป็นการหยุดกระแสเงินไหลออกติดต่อกันเป็นเวลากว่า 7 วัน ซึ่งบริษัทรายใหญ่อย่างแบล็กร็อก ผ่านกองทุน IBIT ได้รับเงินลงทุนใหม่กว่า 143.8 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ ARKB ของ Ark Invest ก็มีเงินไหลเข้าสูงถึง 109.6 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ราคายังคงไม่สามารถฝ่าระดับ 90,000 ดอลลาร์ไปได้

ในเชิงมหภาค บรรยากาศวันหยุดในสหรัฐ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลอย่างวันขอบคุณพระเจ้า ทำให้ปริมาณการซื้อขาย ETF ดิจิทัลลดลงจากกว่า 56 พันล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 24 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์เดียว และแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อในช่วงท้ายปี

การลดลงของ *สภาพคล่อง (Liquidity)* ไม่ได้จำกัดเฉพาะในตลาดคริปโต แต่ยังเห็นได้ชัดในสินทรัพย์เสี่ยงอื่น เช่น ค่าเงินยูโร/ดอลลาร์ที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบ และดัชนีสินทรัพย์ดิจิทัลที่ร่วงลงกว่า 22% ในช่วงไตรมาส 4

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังให้ความสนใจกับ ‘แนวโน้มหลังปีใหม่’ โดยมองว่าการที่ราคาบิตคอยน์ยังรักษาระดับในช่วง 86,500–90,000 ดอลลาร์ไว้ได้เป็นสัญญาณของ ‘ความมั่นคงชั่วคราว’ ท่ามกลางความผันผวนต่ำ อีกทั้งการไหลออกของเงินทุนจาก ETF ก็เริ่มชะลอลง และอาจเกิด ‘การปรับพอร์ต’ ในช่วงต้นเดือนมกราคมเมื่อการซื้อขายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

"ความคิดเห็น" นักลงทุนที่ลดพอร์ตสินทรัพย์เสี่ยงหลังเหตุการณ์ชำระบัญชีในเดือนตุลาคม อาจพิจารณาเข้าซื้อบิตคอยน์อีกครั้ง เนื่องจากระดับราคาปัจจุบันยังต่ำกว่าจุดสูงสุดราว 30% นอกจากนี้ ‘ความผันผวนในตลาดอนุพันธ์ที่ลดลง’ ยังส่งสัญญาณเชิงบวกว่า ภาวะราคาปัจจุบันอาจเป็นเพียงการพักฐานที่ดี

ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ขอบเขตระหว่าง 86,500–90,000 ดอลลาร์ จะเป็นโซนสำคัญในระยะสั้น และทิศทางการทะลุระดับดังกล่าวหลังเปิดปีใหม่ จะเป็นตัวกำหนดแนวโน้มตลาดคริปโตในไตรมาสแรกของปี 2025

"คำสำคัญ": บิตคอยน์(BTC), ETF, สภาพคล่อง, ปริมาณซื้อขาย, ราคา 9 หมื่นดอลลาร์, การปรับพอร์ต, ความผันผวน

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1