G7 เตรียมหารือแนวทาง ‘เพิ่มความปลอดภัยไซเบอร์ทั่วโลก’ หลังเกาหลีเหนือขโมยคริปโตสูงถึง 1.74 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) สื่อต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มประเทศ G7 จะเร่งหารือมาตรการเพิ่มความปลอดภัยด้าน *คริปโตเคอร์เรนซี* หลังเครือข่ายแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือขโมย *สินทรัพย์ดิจิทัล* มูลค่า 1.74 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 64,000 ล้านบาท ภายในปีนี้เพียงปีเดียว สร้างความกังวลให้กับนานาชาติ
หนึ่งในกลุ่มแฮกเกอร์ที่ถูกระบุชื่อคือ ‘ลาซารัส’(Lazarus) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะกลุ่มแฮกระดับรัฐ ได้โจมตีแพลตฟอร์ม *คริปโต* หลายแห่ง โดยในปี 2024 กลุ่มนี้เพียงกลุ่มเดียวได้ขโมยเงินจาก *ไบบิท(Bybit)* ไปกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 50,000 ล้านบาท
ข้อมูลจากบริษัทด้านความปลอดภัยบล็อกเชนอย่าง ‘อีมูนไฟ’(Immunefi) เผยว่าเพียงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีการขโมย *สินทรัพย์ดิจิทัล* มูลค่า 92.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการแฮกจากแพลตฟอร์ม UPCX มูลค่า 70 ล้านดอลลาร์ และจาก KiloEx อีก 7.5 ล้านดอลลาร์
ไม่เพียงแค่การแฮกโดยตรง *รัฐบาลเปียงยาง* ยังใช้กลยุทธ์แฝงตัว โดยส่งบุคคลปลอมตัวเป็นนักพัฒนาอิสระเข้าไปสมัครทำงานในบริษัท *คริปโต* หลายแห่ง หนึ่งในกรณีล่าสุดคือ *คราเคน(Kraken)* ที่สามารถระบุความพยายามปลอมเอกสารเพื่อเข้าสู่ระบบของหน่วยงานที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป้าหมายของกิจกรรมเหล่านี้ คือการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรและหาเงินทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเปียงยาง ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของหน่วยข่าวกรองตะวันตกหลายฉบับก่อนหน้านี้
เพื่อรับมือกับภัยไซเบอร์ที่ขยายตัวรวดเร็วครั้งนี้ G7 จะหารือในที่ประชุมสุดยอด ณ ประเทศแคนาดา โดยจะมีการพูดถึงการเสริมสร้างระบบยืนยันตัวตนของลูกค้า (*KYC*), การเข้มงวดด้านการจ้างงาน และการแลกเปลี่ยนข้อมูลภัยคุกคามระหว่างประเทศ
*ความคิดเห็น* มาตรการรักษาความปลอดภัยด้านคริปโตจะไม่ใช่เพียงการอัปเกรดกระเป๋าเงินดิจิทัลอีกต่อไป หากแต่เป็นการร่วมมือระดับโลกเพื่อหยุดยั้ง ‘สงครามดิจิทัล’ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุคสงครามไซเบอร์เต็มรูปแบบ
ความคิดเห็น 0