บิตคอยน์(BTC) ทะลุ 104,000 ดอลลาร์ หนุนตลาดคริปโตขาขึ้นรอบใหม่จากปัจจัยเศรษฐกิจ-นโยบาย

ตลาดคริปโตกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างร้อนแรง หลังจากเผชิญภาวะซบเซาหลายเดือน โดย *บิตคอยน์(BTC)* พุ่งทะลุระดับ 104,000 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดของเดือนกุมภาพันธ์อีกครั้ง ขณะที่ *อีเธอเรียม(ETH)* พุ่งขึ้นถึง 20% ภายในวันเดียว และ *ริปเปิล(XRP)* ก็ปรับตัวขึ้น 7% ตามมาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 7 ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25–4.50% ท่ามกลางความกังวลเรื่องการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อ การตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะ *ทางเลือกที่ปลอดภัย*

อีกปัจจัยกระตุ้นความมั่นใจของตลาดคือ การบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและสหราชอาณาจักร ซึ่งลดภาษีและเพิ่มการเข้าถึงตลาด ขณะเดียวกัน การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่อาจกลับมาเปิดฉากก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำ ก็กลายเป็น *แรงส่งบวกต่อราคา*

ราคาบิตคอยน์ยังได้รับแรงหนุนจากทิศทาง *กฎระเบียบเชิงบวก* ภายในสหรัฐ โดยหลายรัฐ รวมถึงมิสซูรี, แอริโซนา และออริกอน ได้ผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนคริปโต โดยเฉพาะมิสซูรีที่ประกาศ *ยกเว้นภาษีจากรายได้บิตคอยน์* อย่างเต็มรูปแบบ

ขณะเดียวกัน ความสนใจใน *กองทุน ETF ที่ลงทุนในบิตคอยน์* ยังคงสูง โดยเมื่อวันที่ 8 มีนาคม เงินทุนไหลเข้าสูงถึง 117 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,661 ล้านบาท) โดยแบล็คร็อกเข้าซื้อสูงสุดที่ 69 ล้านดอลลาร์ (ราว 979 ล้านบาท) ตามมาด้วยฟิเดลิตี้ 35.3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 501 ล้านบาท) และ ARK อินเวสต์เมนต์ 13.1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 186 ล้านบาท)

ด้านอีเธอเรียมได้รับแรงหนุนจากการอัปเกรด “เปกทรา(Pectra)” ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงกระเป๋าสตางค์และปรับเพดานการสเตกที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคา *ทะลุระดับ 2,220 ดอลลาร์* ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการปรับขึ้นสูงสุดในกลุ่ม Top 25 แม้ยังห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 4,721 ดอลลาร์อยู่ราว 55%

*ริปเปิล(XRP)* ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2.29 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7% จากแรงเก็งกำไรเรื่อง *การอาจบรรลุข้อตกลง* ระหว่างบริษัทริปเปิลและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) นอกจากนี้ ข่าวการทำสัญญาใหม่กับ *Hidden Road* และการที่ *Welgestics Health* เลือกใช้ XRP เป็นช่องทางชำระเงิน ก็ช่วย *หนุนราคาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง*

*ความคิดเห็น*: การกลับมาฟื้นตัวของตลาดครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของคริปโตในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อสัญญาณบวกทั้งเชิงเศรษฐกิจและนโยบาย ชี้ชัดว่าตลาดยังคงมีศักยภาพเติบโตในระยะกลางถึงยาว