อีเธอเรียม(ETH) กลับมาเรียกความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง หลังจากราคาพุ่งขึ้นกว่า *22% ภายในวันเดียว* เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม สร้างสัญญาณว่าแนวโน้มขาลงที่ต่อเนื่องกว่า 10 สัปดาห์นับตั้งแต่ระดับต่ำสุดที่ 1,385 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 9 เมษายน อาจสิ้นสุดลงแล้ว โดยกระแส *แรงซื้อที่แข็งแกร่ง* ส่งผลให้ในวันที่ 9 พฤษภาคม ราคาอีเธอเรียมขยับขึ้นรวมแล้วถึง *29%* และนำไปสู่การ *ชอร์ตปิดสถานะ (short squeeze)* มูลค่าสูงกว่า *400 ล้านดอลลาร์* หรือราว *5.84 พันล้านบาท*
การพุ่งขึ้นครั้งนี้ทำให้หลายฝ่ายมองว่าสถานะของนักลงทุนรายใหญ่และผู้ดูแลสภาพคล่องในตลาด (market maker) ถูกบีบจนพลิกกลยุทธ์ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในตลาดอนุพันธ์ยังคง *ไม่สะท้อนแรงเชิงบวกในทิศทางเดียวกัน* แม้ราคาจะดีดตัวแรง แต่ความเชื่อมั่นในตลาดฟิวเจอร์สและออปชันของอีเธอเรียมยังอยู่ในระดับกลาง ไม่เอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง
ด้านกองทุน ETF ที่อิงกับอีเธอเรียมในตลาดสปอตก็ยังไม่แสดงการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์อย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังลังเลว่าจะตีความการปรับฐานขึ้นในครั้งนี้ว่าเป็น *จุดเริ่มต้นของตลาดกระทิงใหม่* หรือเป็นเพียง *การรีบาวด์ในระยะสั้น*
น่าสนใจคือการขยับขึ้นของ ETH ครั้งนี้ มีความเชื่อมโยงกับกระแสทางการเมือง โดยระยะหลัง *ประธานาธิบดีทรัมป์* แสดงท่าที *เป็นมิตรต่อสินทรัพย์ดิจิทัล* มากขึ้น และมีท่าทีผ่อนปรนต่อเหรียญทางเลือกบางประเภท ท่าทีนี้ส่งผลให้บรรยากาศในตลาดคริปโตกลับมาคึกคัก และสร้างความหวังต่ออนาคตของเหรียญกลุ่มอัลคอยน์ รวมถึงอีเธอเรียม
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ETH มีโอกาสที่จะทดสอบระดับแนวต้านทางจิตวิทยาที่ *2,000 ดอลลาร์* อีกครั้ง แต่ด้วยการจัดวางสถานะในตลาดอนุพันธ์ที่ยังขาดทิศทางที่ชัดเจน ผู้ลงทุนส่วนใหญ่อาจยังเลือกที่จะ ‘ดูเชิง’ มากกว่าที่จะเข้าทางใดทางหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ในตลาดอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0