ปานามาซิตีเตรียมก้าวขึ้นเป็น ‘ฮับบิตคอยน์’ แห่งใหม่ของอเมริกากลาง หลังนายกเทศมนตรีเมือง ‘เมเยอร์ มิซราจี’ ออกมาแย้มความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง ‘ทุนสำรองบิตคอยน์’ ระดับเมือง หลังเสร็จสิ้นการประชุมกับที่ปรึกษาด้านคริปโตคนสำคัญของเอลซัลวาดอร์
เมื่อเร็วๆ นี้ มิซราจีได้พบกับสองบุคคลสำคัญในวงการคริปโตของเอลซัลวาดอร์ ได้แก่ แมกซ์ ไคเซอร์ และสเตซี เฮอร์เบิร์ต ผู้ทำหน้าที่ผลักดันนโยบายบิตคอยน์ระดับประเทศของเอลซัลวาดอร์ ก่อนเขาจะโพสต์ข้อความลงแพลตฟอร์ม X เพียงคำเดียวว่า ‘ทุนสำรองบิตคอยน์’ สร้างกระแสความสนใจในชุมชนคริปโต โดยเฉพาะในช่วงก่อนการขึ้นเวที Las Vegas Bitcoin 2025 Conference ที่จะจัดขึ้นในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์
แม้รายละเอียดของแนวคิดนี้ยังไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่มีการคาดการณ์ว่า ปานามาอาจกำลังพิจารณายึดรูปแบบของ *ระบบทุนสำรองบิตคอยน์ระดับชาติ* ของเอลซัลวาดอร์มาปรับใช้อย่างจริงจัง โดยปัจจุบัน เอลซัลวาดอร์ถือครองบิตคอยน์(BTC) จำนวน 6,179 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากแนวคิดการจัดตั้งทุนสำรองแล้ว ปานามาซิตียังเดินหน้าใช้คริปโตอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยตามมาตรการใหม่ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติ ประชาชนสามารถชำระค่าภาษีและค่าธรรมเนียมของเมืองด้วย *บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), เทเธอร์(USDT)* และ *USDC* ได้ ภายใต้ระบบแปลงสกุลเงินคริปโตเป็นเงินตราในประเทศโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ ตามโพสต์ของไคเซอร์ ยังมีการหารือเรื่อง *การขุดบิตคอยน์แบบยั่งยืน* โดยใช้พลังงานสะอาดจากเขื่อนผลิตไฟฟ้าของปานามา ซึ่งคล้ายกับรูปแบบที่เอลซัลวาดอร์ใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพเพื่อขุดคริปโต หากโครงการนี้เกิดขึ้นจริง ก็อาจทำให้ปานามาซิตีกลายเป็นศูนย์กลางคริปโตแบบ ‘เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม’ แห่งใหม่
ในด้านการศึกษา สเตซี เฮอร์เบิร์ต ระบุว่า ปานามาซิตี เตรียมนำหนังสือการเงินยอดนิยมของเอลซัลวาดอร์ “เงินคืออะไร?” ไปใช้ในห้องสมุดออนไลน์ของเมือง เพื่อยกระดับความรู้ทางการเงินของประชาชน ถือเป็นอีกก้าวของความร่วมมือข้ามประเทศในระดับชุมชน
แม้ปานามาซิตีอยู่ในช่วงเริ่มต้นของแนวทางบิตคอยน์แบบเป็นทางการ แต่นายกเทศมนตรีมิซราจีก็มีจุดยืน ‘สนับสนุนชัดเจน’ ต่อไอเดียนี้ และเขาเตรียมเข้าหารือกับสมาชิกรัฐสภาเพื่อขับเคลื่อนแนวคิดดังกล่าวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยความขัดแย้งระหว่างเอลซัลวาดอร์กับ IMF จากการใช้นโยบายบิตคอยน์มาก่อนหน้านี้ *ความคิดเห็น* คือ ปานามาน่าจะใช้แนวทางที่ ‘ระมัดระวัง’ มากกว่า แต่ยังคงยึดมั่นแนวคิดการเป็นเมืองแห่งคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0