ตลาดคริปโตเคยพุ่งแรงในช่วงที่ผ่านมา แต่ล่าสุดเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวหลังจากแรงกดดันจากหลายปัจจัยกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้มูลค่ารวมของตลาดคริปโตทั่วโลกปรับลดลง 2.43% ภายในเวลา 24 ชั่วโมง อยู่ที่ระดับ 3.35 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ในขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายกลับเพิ่มขึ้นถึง 184.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความผันผวนที่รุนแรงขึ้นในตลาด
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการปรับฐานในครั้งนี้ รวมถึงความเคลื่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะกรณี ‘ทรัมป์’ ที่นโยบายเรียกเก็บภาษีนำเข้าของเจ้าตัวถูกศาลสหรัฐชะลอไว้เป็นครั้งที่สอง ขณะเดียวกัน ‘เจเน็ต เยลเลน’ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้ออกมายืนยันว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนกำลังอยู่ในสถานะ ‘ชะงักงัน’ ซึ่งเพิ่มความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจมหภาคและลามมาถึงตลาดคริปโต
แม้ตลาดจะชะลอลง แต่ดัชนี ‘ความกลัวและความโลภ’ ด้านคริปโตยังคงอยู่ในโซน ‘ความโลภ’ ที่ระดับ 61 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ยังไม่หมดไปโดยสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายรายเตือนว่า ช่วงหลังจากดัชนีนี้อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง มักมีแนวโน้มตามมาด้วยการ ‘ปรับฐาน’ ของราคา
ในส่วนของราคาสกุลเงินหลัก บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 วัน ที่ 104,684 ดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์มองว่านี่อาจเป็นสัญญาณเตือนระยะสั้น และแรงขายจากนักลงทุนฝั่ง ‘ลอง’ กำลังเกิดขึ้น ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) ถูกกดดันจากแรงขายบริเวณแนวต้านสำคัญ ร่วงลง 3.6% ภายใน 24 ชั่วโมง สู่ระดับ 2,609 ดอลลาร์
ฝั่งอัลท์คอยน์เองก็ไม่พ้นวิกฤต โดยโซลานา(SOL) ดิ่งลง 4.79%, คาร์ดาโน(ADA) ลดลง 5.73%, ดอจคอยน์(DOGE) ปรับตัวลง 6.76%, BNB ลดลง 2.47%, ริปเปิล(XRP) ติดลบ 3.37% และในกลุ่มเหรียญใหม่อย่าง ‘ซุย’(SUI) ก็ลดลง 4.06% เช่นกัน ขณะที่สเตเบิลคอยน์อย่าง USDT และ USDC ยังคงรักษาความนิ่งไว้ได้ตามปกติ
*ความคิดเห็น*: แม้ความผันผวนในตลาดจะยังคงอยู่ แต่การที่ ‘ความโลภ’ ยังมีอยู่ในระดับสูง บวกกับแรงซื้อที่ยังคงแข็งแกร่ง อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะหมีอย่างเต็มรูปแบบ นักลงทุนควรจับตาทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐและความเคลื่อนไหวของทรัมป์ที่จะส่งผลต่อตลาดในระยะสั้นถึงกลาง
ความคิดเห็น 0