ตลาดบิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญกับช่วงราคาที่ค่อนข้างแคบ โดยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 4,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางการหยุดชะงักของกระแสเงินทุนที่เคยไหลเข้า ‘กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอต’ ในสหรัฐติดต่อกันถึง 15 วัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเริ่มเกิดการไหลออกของเงินทุนในระดับที่น่าจับตา ส่งผลให้บรรดานักเทรดเริ่มปรับท่าทีเป็นเชิงป้องกันมากขึ้น
ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาด ‘โซโซแวลู(SoSoValue)’ ระบุว่า กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐสามารถดึงดูดเงินลงทุนรวมกว่า 4.7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.53 แสนล้านวอน) ระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน ถึง 30 มิถุนายน โดยมีแรงซื้อต่อเนื่องตลอดช่วงดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อราคาบิตคอยน์ทรงตัวอยู่แถว 106,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 148.08 ล้านวอน) ปรากฏว่ามีเงินทุนไหลออกถึง 342.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.758 พันล้านวอน) เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ‘ภาวะกระแสเงินเข้า’ ได้หยุดลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่ากลยุทธ์ของนักลงทุนเริ่มเปลี่ยนจากแนวทางเชิงรุกในช่วงตลาดขาขึ้น มาเป็นแนวทาง ‘ลดความเสี่ยง’ ท่ามกลางความไม่แน่นอน โดยเฉพาะในตลาดฟิวเจอร์ส ยังพบปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันสัดส่วนการถือสถานะ Long ก็ลดลงเช่นกัน สื่อถึงบรรยากาศของความระแวดระวังที่เพิ่มมากขึ้น
ในเวลานี้ เทรดเดอร์กำลังจับตาระดับแนวรับสำคัญที่ 106,500 ดอลลาร์ และลุ้นว่าราคาจะสามารถ ‘ทะลุแนวต้านที่แข็งแกร่ง’ บริเวณ 109,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 151.51 ล้านวอน) ได้หรือไม่ หากยังไม่สามารถฝ่าออกจากกรอบราคานี้ ราคาบิตคอยน์อาจเผชิญแรงขายเพิ่มขึ้นในระยะสั้น
สถานการณ์การไหลเข้าของทุนใน ETF ที่ชะงักลง และแรงซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว ส่งสัญญาณว่าตลาดบิตคอยน์อาจยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะพบแรงขับเคลื่อนใหม่ที่ชัดเจนขึ้น ความ ‘ไม่แน่นอน’ ในตลาดยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อน้ำหนักการตัดสินใจของนักลงทุนในช่วงนี้
ความคิดเห็น 0