ชิบะอินุ(SHIB) กลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง หลังจากราคาพุ่งขึ้นถึง *195%* ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ไม่ได้ขับเคลื่อนโดย 'วาฬ' รายใหญ่เท่าไรนัก แต่กลับเกิดจากการสะสมของนักลงทุนรายย่อยที่ทยอยซื้อสะสมในปริมาณเล็กน้อย ข้อมูล *On-Chain* ชี้ว่า ปริมาณธุรกรรมขนาดเล็กระหว่าง *1 ถึง 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ* (ประมาณ 1,390–13,900 บาท) เพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติ ทำให้เกิดกระแสการซื้อจากฐานของตลาด
รูปแบบพฤติกรรมดังกล่าวเคยเป็นหนึ่งใน ‘สัญญาณเริ่มต้น’ ของการกลับตัวของตลาดในอดีต นักลงทุนรายย่อยมักเคลื่อนไหวเร็วกว่านักลงทุนรายใหญ่ และสามารถสะท้อนความรู้สึกเชิงบวกที่กำลังค่อยๆ ฟื้นตัว โดยเฉพาะในกรณีของ *ชิบะอินุ* ซึ่งแม้จะยังไม่สามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะ 100 วัน(EMA) ได้ แต่ล่าสุด ราคาได้ฟื้นตัวมาอยู่ที่บริเวณ *0.0000100 ดอลลาร์สหรัฐฯ* (ประมาณ 0.013 บาท) ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญที่อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการพลิกกลับในระยะถัดไป
ด้านเทคนิคยังให้สัญญาณบวกเพิ่มเติม ดัชนี *RSI* ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ *39* ซึ่งใกล้เข้าสู่เขต *Oversold* และหมายถึงความเสี่ยงในการเทขายเริ่มชะลอตัว หากเป็นเช่นนั้น นักลงทุนกลุ่มใหม่ก็อาจใช้จังหวะนี้เข้าซื้อได้เร็วขึ้น เนื่องจากมีช่องว่างที่นักลงทุนเดิมบางส่วนได้ขายทำกำไรออกไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลว่าตลาดของ *ชิบะอินุ* อาจยังไม่พร้อมสำหรับการฟื้นตัวอย่างจริงจัง เพราะปริมาณธุรกรรมระดับกลางถึงใหญ่ ได้แก่ *1,000 ถึง 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ* (ประมาณ 1.39 ล้านบาท – 139 ล้านบาท) ยังคงลดลงต่อเนื่อง นั่นแสดงถึงการลังเลของสถาบันการเงินและ 'วาฬ' ที่ยังไม่มั่นใจในการกลับเข้าตลาด
สถานการณ์ปัจจุบันยังถือว่าอยู่ใน ‘ระยะเริ่มต้น’ จึงเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการกลับตัวของเทรนด์อย่างชัดเจน แต่มูลค่าการซื้อแบบ ‘สะสมจากรากหญ้า’ ของนักลงทุนรายย่อยที่เห็นได้นั้น เป็นสัญญาณว่า ‘จิตวิทยาตลาด’ เริ่มฟื้นตัว หากราคาสามารถทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และ 100 วันได้อย่างชัดเจน การฟื้นตัวในระยะสั้นอาจสามารถยืดตัวได้ต่อ
แต่ต้องเน้นย้ำว่าปริมาณการซื้อขายรวมยังอยู่ในระดับต่ำ การเพิ่มขึ้นของราคาในช่วงนี้จึงอาจยังเปราะบาง หากไม่มีแรงซื้อเพิ่มเติมจากกลุ่มนักลงทุนรายใหม่มากเพียงพอ ก็มีความเสี่ยงที่ภาวะฟื้นตัวในรอบนี้จะจบลงเพียงแค่ *‘ดีดตัวระยะสั้น’*
นักลงทุนในตลาดควรพิจารณาโอกาสในการเข้าซื้อในภาวะราคาต่ำอย่างรอบคอบ การเร่งเข้าตลาดโดยไม่มีสัญญาณชัดเจนจากปริมาณการซื้อขายและตัวชี้ทางเทคนิค อาจทำให้เผชิญกับความเสี่ยงในการเข้าซื้อที่ *'จุดสูงสุด'* ของราคาชั่วคราวได้เช่นกัน.
ความคิดเห็น 0