ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ชาร์พลิงก์ เกมมิ่ง (SharpLink Gaming) กลายเป็นจุดสนใจในวงการคริปโต หลังจากเข้าซื้อ *อีเธอเรียม(ETH)* ครั้งใหญ่ภายในเวลาเพียง 5 วัน โดยบริษัทได้ทำการซื้อสะสมรวมถึง 60,582 ETH คิดเป็นมูลค่าประมาณ 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,502 ล้านบาท) ส่งผลให้กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ถือ *ETH* มากที่สุดในขณะนี้
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม บริษัทได้ซื้อเพิ่มอีก 16,374 ETH โดยจ่ายเงินทั้งสิ้น 49.03 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 681 ล้านบาท) ทำให้ยอดถือครองรวมทะลุ 270,000 ETH ไปแล้ว การลงทุนใน *ETH* ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อการเก็บสะสมทรัพย์สิน แต่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สร้างรายได้ผ่าน ‘สเตกกิ้ง’ โดยบริษัทนำโทเคนทั้งหมดไปใช้กับโปรโตคอลเพื่อรับรางวัลแบบออนเชน ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็สร้างผลตอบแทนแล้วกว่า 322 ETH
ชาร์พลิงก์ เริ่มเดินหน้าซื้อ *อีเธอเรียม* ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม โดยในช่วงกลางเดือนมิถุนายนได้ถือ ETH แล้วถึง 176,271 เหรียญ ซึ่งเป็นการจัดซื้อที่ใช้เงินทุนจากโปรแกรมเพิ่มทุนมูลค่า 79 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,098 ล้านบาท) จากนั้นปลายเดือนมิถุนายน บริษัทยังซื้อเพิ่มอีก 7,689 ETH (19.2 ล้านดอลลาร์, ประมาณ 267 ล้านบาท) และเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมก็เข้าซื้อจากมูลนิธิอีเธอเรียมอีก 10,000 ETH (25.7 ล้านดอลลาร์, ประมาณ 357 ล้านบาท)
โจเซฟ ลูบิน(Joseph Lubin) ประธานคณะกรรมการของชาร์พลิงก์ กล่าวแสดงความภาคภูมิใจที่ได้สนับสนุนความแข็งแกร่งระยะยาวและภารกิจการกระจายอำนาจของเครือข่าย *อีเธอเรียม* ในช่วงเวลาที่สถาบันเริ่มให้ความสำคัญกับสินทรัพย์นี้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทได้ให้ความสำคัญกับตัวชี้วัด “ความเข้มข้น ETH ต่อหุ้นแบบปรับลด” ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 19% จาก 2.00 ETH เป็น 2.37 ETH ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัท ที่ไม่มอง *อีเธอเรียม* เพียงเครื่องมือทำกำไรระยะสั้น
ราคาหุ้นของชาร์พลิงก์($SBET) ก็ได้รับแรงหนุนจากกลยุทธ์นี้ โดยเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ราคาปิดที่ 21.65 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,012 บาท) เพิ่มขึ้นถึง 17.15% ภายใน 24 ชั่วโมง *ความคิดเห็น: กลยุทธ์ด้านการเงินบนอีเธอเรียมเริ่มแสดงผลเชิงบวกต่อมูลค่าบริษัทอย่างชัดเจน*
กระแสการสะสม *อีเธอเรียม* ไม่ได้เกิดกับชาร์พลิงก์เพียงรายเดียว ล่าสุด เกมสแควร์(GameSquare) ได้จัดตั้งคลัง *ETH* มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,390 ล้านบาท) โดยร่วมมือกับไดเลกติก(Dialectic) ตั้งเป้าผลตอบแทนสูงถึง 14% ขณะที่บิตมายน์(Bitmine) เดินเกมรุกยิ่งกว่าด้วยงบ 250 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,475 ล้านบาท) ส่วนบิทดิจิทัล(Bit Digital) ได้ขาย *บิตคอยน์(BTC)* ทั้งหมดเพื่อปรับโครงสร้างสินทรัพย์มาถือ *ETH* มากกว่า 100,000 เหรียญ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,390 ล้านบาทเช่นกัน
*ความคิดเห็น: กลยุทธ์ที่ใช้ ETH เป็นศูนย์กลาง* กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของภาคธุรกิจ ไม่เพียงเพิ่มรายได้จากการสเตกกิ้ง แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรที่มีบทบาทในระบบเศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์ ชาร์พลิงก์จึงถือว่ากำลังเป็นผู้นำในกระแสนี้ และน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้บริษัทอื่นๆ เดินตามในอนาคต
ความคิดเห็น 0