ร่างกฎหมาย GENIUS สะดุดกลางสภา สะท้อนรอยร้าวพรรครีพับลิกัน-อนาคตคริปโตสหรัฐไม่แน่นอน

การอภิปรายเกี่ยวกับกฎหมายสำคัญด้านคริปโตเคอร์เรนซีในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวันที่ 15 ทำให้ ‘ทรัมป์’ และพรรครีพับลิกันเผชิญกับแรงต้านครั้งใหญ่ โดยเฉพาะ ‘ร่างกฎหมาย GENIUS’ ที่มุ่งกำหนดกรอบการกำกับดูแล ‘สเตเบิลคอยน์’ และแนวทางเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ต้องชะงักไม่สามารถผ่านขั้นตอนโหวตเบื้องต้นได้ หลายฝ่ายมองว่าสถานการณ์นี้ไม่เพียงเผยให้เห็นความแตกร้าวภายในพรรครีพับลิกัน แต่ยังสะท้อนภาพรวมของความไม่ชัดเจนในนโยบายคริปโตของสหรัฐก่อนศึกเลือกตั้งครั้งใหญ่

ผลการโหวตดังกล่าวเกิดขึ้นในการประชุมของสภาผู้แทนฯ สหรัฐ โดยในจำนวนสมาชิกทั้งหมด 419 คน มีเพียง 196 คนที่สนับสนุนให้เดินหน้าอภิปรายร่างกฎหมาย GENIUS แต่ถูกสกัดด้วยเสียงคัดค้านถึง 223 เสียง ทำให้ร่างกฎหมายไม่สามารถเข้าสู่ขั้นตอนถัดไปได้ น่าสนใจว่าในกลุ่มผู้คัดค้านมีสมาชิกพรรครีพับลิกันรวมอยู่ด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นสัญญาณของ ‘การแตกคอภายในพรรค’ อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อแผนนโยบายคริปโตที่ *ทรัมป์* ผลักดันมาโดยตรง

ร่างกฎหมาย GENIUS ถูกเสนอขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อกำหนด *แนวทางการออกและควบคุมสเตเบิลคอยน์* อย่างเป็นระบบ แต่สมาชิกสภาผู้แทนฯ บางรายให้ความเห็นว่า กฎหมายฉบับนี้อาจเปิดทางให้กับ ‘CBDC’ ซึ่งพวกเขามองว่าอาจก่อให้เกิดการควบคุมของรัฐที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แม้ในเนื้อหาของร่างกฎหมายจะมีการระบุให้ ‘ห้ามพัฒนา CBDC’ อย่างชัดเจนก็ตาม นักข่าวสายคริปโต เอลีเนอร์ เทอร์เรต(Eleanor Terrett) ได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า การตีความร่างกฎหมายครั้งนี้ “เต็มไปด้วยความสับสนและขัดแย้ง”

สถานการณ์ยิ่งสลับซับซ้อนขึ้นเมื่อพิจารณาจากภูมิทัศน์ทางการเมืองของสหรัฐในขณะนี้ *ทรัมป์* กำลังเดินหน้าแผนขยายฐานสนับสนุนในกลุ่มผู้ใช้คริปโตอย่างจริงจัง หลังจากเกิดความขัดแย้งกับอีลอน มัสก์(Elon Musk) โดยร่างกฎหมาย GENIUS ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์หลัก ซึ่งมีเป้าหมายทั้งด้านเศรษฐกิจ—เพื่อแข่งขันกับจีนในเวทีดิจิทัล—และการเมือง—เพื่อดึงดูดคะแนนเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่ซึ่งเปิดรับคริปโต

การที่ร่างกฎหมายไม่สามารถเริ่มการอภิปรายได้จึงนับเป็นความพ่ายแพ้เชิงกลยุทธ์ของฝ่ายทรัมป์ และสะท้อนความ ‘ไม่เป็นเอกภาพ’ ภายในพรรครีพับลิกันอย่างชัดเจน ทั้งยังตอกย้ำความอ่อนไหวทางการเมืองของนโยบายที่เกี่ยวข้องกับ *CBDC* ในสหรัฐ ที่ดูเหมือนจะยังไม่มีฉันทามติรองรับที่ชัดเจนในระดับพรรค

ประเด็นนี้จึงกลายเป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ที่อาจกำหนดทิศทางนโยบายคริปโตของสหรัฐในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งที่จะมาถึง ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นส่งผลโดยตรงกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนคริปโต ซึ่งอาจยังคงอยู่ในภาวะระส่ำระสายไปอีกระยะ ทั้งนี้ ความคืบหน้าจาก *สภาผู้แทนฯ* และ *ทรัมป์* จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการชี้ชะตาร่างกฎหมาย GENIUS ต่อไป