อังกฤษเสนอห้ามบริจาคเงินคริปโตหนุนการเมือง หวั่นทุนต่างชาติแทรกแซงเลือกตั้ง

รัฐบาลอังกฤษเดินหน้า ‘เบรก’ การสนับสนุนทางการเมืองด้วยเงินคริปโต สวนทางกับประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่แสดงจุดยืนสนับสนุนต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเปิดเผย จนกลายเป็นหนึ่งในแหล่งทุนหลักในการเลือกตั้งประธานาธิบดี

เมื่อวันที่ 16 (เวลาท้องถิ่น) แพต แมคแฟดเดน(Pat McFadden) รัฐมนตรีประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรีของอังกฤษ แถลงต่อรัฐสภาว่า “คริปโตเคอร์เรนซีมีลักษณะติดตามที่มาที่ยาก จึงควร *ทบทวนการห้ามการบริจาคเงินทางการเมืองด้วยคริปโต* อย่างจริงจัง” พร้อมย้ำว่า “ความโปร่งใสของเงินทุนทางการเมืองเป็นหัวใจของความเชื่อมั่นสาธารณะ” และควรตรวจสอบในประเด็นว่า ผู้บริจาคคือใคร มีการลงทะเบียนหรือไม่ และที่มาของเงินทุนชัดเจนหรือไม่

การอภิปรายดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเสนอของ เลียม เบิร์น(Liam Byrne) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเรียกร้องให้มีการห้ามไม่ให้ใช้เงินคริปโตบริจาคแก่พรรคการเมือง โดยทั้งเบิร์นและแมคแฟดเดนแสดงความกังวลว่าคริปโตอาจเป็นช่องทางให้ทุนต่างชาติหรือเงินผิดกฎหมายไหลเข้ามามีอิทธิพล พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้อง *ให้เพิ่มงบประมาณแก่สำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติ(NCA) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง* เพื่อรับมือกับความท้าทายจากสินทรัพย์ดิจิทัล

กระแสความกังวลทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากพรรครีฟอร์มสหราชอาณาจักร(Reform UK) ประกาศว่า จะเป็น *พรรคการเมืองแรกของประเทศที่รับเงินสนับสนุนด้วยบิตคอยน์(BTC)* จนนำไปสู่เสียงวิพากษ์จากองค์กรด้านความโปร่งใสอย่าง สปอตไลต์ออนคอร์รัปชัน(Spotlight on Corruption) โดยองค์กรชี้ว่า คริปโตอาจเป็นช่องทางให้เงินต่างชาติและเงินผิดกฎหมายแทรกซึมเข้าไปในระบบการเมือง พร้อมระบุในรายงานว่า “สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงที่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการเมืองในอนาคต”

มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตทางการเมืองยังแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ไอร์แลนด์ประกาศ *ห้ามการสนับสนุนด้วยคริปโตอย่างสมบูรณ์นับตั้งแต่ปี 2022* โดยให้เหตุผลว่า เป็นมาตรการป้องกันการแทรกแซงจากต่างชาติ ในขณะที่สหรัฐฯ เองก็มีบางรัฐ เช่น โอเรกอน, มิชิแกน และนอร์ทแคโรไลนา เลือก *ห้ามการบริจาคด้วยคริปโต* ด้วยความกังวลเรื่องการติดตามตรวจสอบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม รัฐแคลิฟอร์เนียเคยห้ามในปี 2018 ก่อนจะ *ยกเลิกมาตรการในปี 2022*

ขณะเดียวกันในเอลซัลวาดอร์ แม้จะเป็นประเทศที่ใช้บิตคอยน์เป็นเงินถูกกฎหมาย แต่กลับ *ยังไม่มีข้อบังคับเกี่ยวกับเงินสนับสนุนทางการเมืองด้วยคริปโต* ทำให้กลุ่มพลเมืองอย่าง Acción Ciudadana ออกมาเตือนว่า “องค์กรอาชญากรรมหรือรัฐบาลต่างชาติอาจแทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตยทางอ้อมผ่านคริปโตได้”

ในทางกลับกัน *สหรัฐฯ* กลับเห็นความเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันออกไป โดยระหว่างการแข่งขันเลือกตั้งในปี 2024 *บริษัทในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลใช้เงินสนับสนุนผู้สมัครที่มีจุดยืนหนุนคริปโตรวมกันกว่า 134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.87 หมื่นล้านบาท)* การสนับสนุนจำนวนมหาศาลนี้ไม่เพียงส่งผลต่อ *อำนาจต่อรองทางการเมืองของอุตสาหกรรม* เท่านั้น แต่ยังจุดกระแสความกังวลเกี่ยวกับ *ช่องว่างทางกฎหมายในการควบคุมคริปโตทางการเมือง* ที่ยังไม่ชัดเจนเช่นกัน