อานาโตลี ยาโคเวนโก(Anatoly Yakovenko) ผู้ร่วมก่อตั้งโซลานา(SOL) เปิดเผยวิสัยทัศน์ใหม่เกี่ยวกับ *กลยุทธ์การขยายความจุบล็อก* ของเครือข่าย ท่ามกลางการจับตามองของตลาดคริปโต เขากล่าวว่า “การเพิ่มความจุบล็อกเป็นสองเท่าง่ายกว่าการคำนวณเศรษฐศาสตร์ของการรวมลายเซ็นแบบ BLS” ซึ่งกลายเป็นคำพูดที่ได้รับความสนใจจากคนในวงการ
ลายเซ็นแบบ BLS ที่กล่าวถึง คือโครงสร้างที่ใช้ในบีคอนเชนของอีเธอเรียม(ETH) โดยใช้โค้งวงรี BLS12-381 สำหรับการรวมลายเซ็นแบบหลายรายการให้เป็นหนึ่งเดียว ขณะที่โซลานากำลังมุ่งเน้นโครงสร้างที่เรียบง่ายกว่าเพื่อรองรับการขยายความจุของระบบในอนาคต
ความคิดเห็นของยาโคเวนโกดังกล่าวเกิดขึ้นควบคู่กับการอัปเกรดระบบครั้งใหญ่ โดยข้อเสนอ SIMD-0256 ที่เพิ่งถูกนำไปใช้จริงบนเมนเน็ต ทำให้ความจุบล็อกของโซลานาเพิ่มจาก 48 ล้าน Compute Units (CU) เป็น 60 ล้าน CU ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดขีดจำกัดที่ผู้นำบล็อกสามารถประมวลผลงาน เพื่อให้เครือข่ายโดยรวมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยาโคเวนโกระบุว่า การเพิ่มขึ้นครั้งนี้ยังถือเป็น *การขยายแบบอนุรักษ์นิยม* โดยมีเป้าหมายสูงสุดที่ 100 ล้าน CU ซึ่งมากกว่าเดิมกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเริ่มต้นที่ 50 ล้าน CU การเพิ่มขนาดดังกล่าวจะทำให้สามารถบรรจุธุรกรรมได้มากขึ้นในแต่ละบล็อก และช่วยเสริมจุดแข็งด้าน *ประสิทธิภาพการประมวลผลระดับสูง* ของเครือข่าย
ด้านประสิทธิภาพ โซลานาแสดงสัญญาณที่ชัดเจน โดยสามารถประมวลผลได้ถึง 1,700 TPS (ธุรกรรมต่อวินาที) ซึ่งยาโคเวนโกกล่าวว่า “โซลานาเพิ่มความสามารถได้มากกว่าอีเธอเรียมและโซลูชัน L2 ทั้งหมดรวมกัน” ความคืบหน้าแบบนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนแก่ตลาดไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาจากตลาดยังคงผันผวน แม้มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาเหรียญ SOL กลับลดลง 7.53% มาอยู่ที่ 186 ดอลลาร์ หรือประมาณ 25,8540 บาท หลังจากเคยทะลุ 200 ดอลลาร์ เมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสองเดือน
การขยายความจุบล็อกของโซลานาจึงไม่ใช่เพียงตัวเลขที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นการวาง *แผนระยะยาวด้านการขยายตัวของเครือข่าย* ที่น่าจับตามอง วงการคริปโตกำลังเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดว่า โซลานาจะสามารถไปถึงเป้าหมาย 100 ล้าน CU ได้หรือไม่ และสิ่งนี้จะส่งผลอย่างไรต่อระบบนิเวศทั้งหมดในอนาคต
ความคิดเห็น 0