ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ท่ามกลางกระแสความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยินดีรับมากขึ้นทั้งใน *ตลาดหุ้นสหรัฐฯ* และ *ตลาดคริปโต* สถานการณ์ล่าสุดสะท้อนถึงภาวะ ‘Risk-On’ ที่ชัดเจน โดย *ทุนไหลเข้าในกองทุน ETF อีเธอเรียม(ETH)* กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดัน *แนวโน้มขาขึ้น* ควบคู่ไปกับความร้อนแรงของ *หุ้นมีม* และการทำ *สถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของไบแนนซ์คอยน์(BNB)*
จากรายงานฉบับล่าสุดของ *ไบแนนซ์รีเสิร์ช* ระบุว่า บรรยากาศการลงทุนที่กลับมาคึกคัก ถูกหนุนโดยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่ได้ประโยชน์จาก AI และการที่นักลงทุนสถาบันเริ่ม *หวนกลับมาถือครองคริปโตอีกครั้ง* โดยเฉพาะในช่วง *7 วันที่ผ่านมา* เงินไหลเข้าสู่ *ETF อีเธอเรียม* สูงถึง *1.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.94 หมื่นล้านบาท)* สูงกว่าเงินที่ไหลออกจาก *ETF บิตคอยน์(BTC)* ซึ่งอยู่ที่เพียง *59 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 819 ล้านบาท)* และเมื่อดูภาพรวมทั้งเดือนกรกฎาคม เม็ดเงินที่ไหลเข้า *ETF อีเธอเรียม* มากถึง *4.67 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.4 หมื่นล้านบาท)*
ในบรรดาคริปโตทั้งหมด จุดที่โดดเด่นที่สุดยังคงเป็น *ไบแนนซ์คอยน์(BNB)* ที่สามารถทะลุระดับ *800 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.11 ล้านบาท)* เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม และกลายเป็น *ราคาสูงสุดตลอดกาล* โดยมีแรงหนุนสำคัญจากบริษัท *นาโนแล็บส์* ที่จดทะเบียนในแนสแด็ก เปิดเผยว่าถือครอง *BNB มูลค่ากว่า 90 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.25 พันล้านบาท)* สื่อให้เห็นถึงแนวโน้มขององค์กรจำนวนมากที่เริ่ม *กระจายความเสี่ยงนอกเหนือจากบิตคอยน์และอีเธอเรียม*
ไบแนนซ์รีเสิร์ชยังเปิดเผยว่า *อัตราส่วนชาร์ป (Sharpe Ratio)* ของ BNB ในช่วง 5 ปี อยู่ที่ *2.5* หมายความว่า BNB ให้ผลตอบแทน *2.5 ดอลลาร์ต่อความเสี่ยง 1 ดอลลาร์* ซึ่งถือว่าสูงกว่าทั้งดัชนีในตลาดการเงินแบบดั้งเดิมและคริปโตคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด มีการวิเคราะห์ว่า *BNB เริ่มเป็นที่จับตาของนักลงทุนขั้นสูง*
อย่างไรก็ตาม ความหวังในตลาดไม่ได้สดใสสอดคล้องกันทั้งหมด เพราะ *ก่อนหน้าการเปิดเผยรายงานฉบับนี้เพียงหนึ่งวัน* ตลาดคริปโตเผชิญ *แรงเทขายอย่างรุนแรง* ส่งผลให้มูลค่ารวมของตลาดหายไปราว *1 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 139 ล้านล้านบาท)* มีเหรียญสำคัญอย่าง *ริปเปิล(XRP)*, *โดจคอยน์(DOGE)* และ *แอปโทส(APT)* ดิ่งลงเป็นเปอร์เซ็นต์สองหลัก บางเหรียญร่วงเกิน *16%* สะท้อนความผันผวน และยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าเป็นสัญญาณของ *ฤดูกาล Altcoin* หรือแค่ *แรงเก็งกำไรระยะสั้น* ที่ใกล้สิ้นสุด
ขณะเดียวกัน แม้ว่า *อีเธอเรียม* จะปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ *สัดส่วน ETH/BTC* กลับปรับตัวลดลง *ราว 7.4%* จากระดับสูงสุดล่าสุด และแม้ว่า *ส่วนแบ่งตลาดของบิตคอยน์(BTC)* เคยลดลงต่ำกว่า *60%* แต่ก็ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนยังจับตาว่า *บิตคอยน์จะสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1.2 แสนดอลลาร์ (ประมาณ 16.6 ล้านบาท)* ได้หรือไม่
ด้าน *ตลาดหุ้นสหรัฐฯ* เองยังคงคึกคัก โดยไบแนนซ์รีเสิร์ชระบุว่า กลุ่มหุ้นมีมเริ่มกลับมาอีกครั้ง เช่น *โคลส์(Kohl’s)* ที่พุ่งกว่า *90%* และ *โกโปร(GoPro)* ที่เด้งขึ้น *49%* ในวันเดียว คล้ายกับกระแสของ *เกมสต๊อปในปี 2021* ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมการลงทุนที่เกิดจากกระแสโซเชียล ความรู้สึก ‘FOMO’ หรือ *กลัวพลาดโอกาส*
นอกจากนี้ ดัชนี *S&P500* ยังทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ *6,358.91 จุด* เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ปัจจัยขับเคลื่อนรวมถึง *การเจรจาภาษีระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น*, *ผลประกอบการของบริษัทด้าน AI* และความคาดหวังเรื่องทิศทางนโยบายจาก *เฟดและธนาคารกลางญี่ปุ่น* รวมถึงการประกาศ GDP ของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง ขณะที่ในฝั่งคริปโต *การอนุมัติหรือไม่อนุมัติ ETF ของโซลานา(SOL)* ก็ถูกจับตาในฐานะตัวแปรสำคัญที่จะชี้ชะตาตลาดในช่วงถัดไป
ความคิดเห็น 0