ทรัพย์สินซาโตชิ นากาโมโตะพุ่งทะลุ 1.3 แสนล้านดอลลาร์ หลังบิตคอยน์(BTC) ทำสถิติใหม่

มูลค่าทรัพย์สินของซาโตชิ นากาโมโตะ(Satoshi Nakamoto) ผู้สร้างบิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุประมาณ *181.7 ล้านล้านวอน* หรือราว *1.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ* ไปเป็นที่เรียบร้อย หลังมูลค่าของบิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดใหม่แตะระดับ *122,700 ดอลลาร์* (ประมาณ 1.7 ล้านบาท) ส่งผลให้ทรัพย์สินดิจิทัลของเขากลายเป็นตัวเลขที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

จากข้อมูลของ Arkham แพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชนแบบออนเชน ระบุว่า ซาโตชิยังคงถือครอง *ประมาณ 1.1 ล้าน BTC* ซึ่งถูกขุดไว้ตั้งแต่ยุคแรกในปี 2009 โดยเหรียญเหล่านี้ไม่เคยถูกเคลื่อนย้ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้กระเป๋าเงินที่ซาโตชิใช้งานในยุคนั้นกลายเป็นหนึ่งใน *สินทรัพย์ดิจิทัลนิ่งที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก* และยังคงเป็นหนึ่งในปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการคริปโต

ณ ราคาตลาดปัจจุบัน บิตคอยน์ซื้อขายกันที่ราว *118,536 ดอลลาร์* (ประมาณ 1.65 ล้านบาท) ทำให้รวมมูลค่าทรัพย์สินของซาโตชิในตอนนี้ทะลุ *1.3 แสนล้านดอลลาร์* หรือ *181.7 ล้านล้านวอน* ไปแล้ว ซึ่งสูงกว่าทรัพย์สินของบิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์(MSFT) และจิม วอลตัน ทายาทตระกูลวอลตัน เจ้าของวอลมาร์ต โดย *ดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg* ชี้ให้เห็นว่า ซาโตชิมีมูลค่าทรัพย์สินใกล้เคียงกับ *ไมเคิล เดลล์* ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเดลล์ เทคโนโลยีส์(DELL) ที่มีอยู่ราว *136,000 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ *190 ล้านล้านวอน*

ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม บิตคอยน์พุ่งขึ้นจากระดับ *105,400 ดอลลาร์* (ประมาณ 1.46 ล้านบาท) ทะลุแนวต้าน 1.2 แสนดอลลาร์ได้สำเร็จ ซึ่งเท่ากับว่าเพียงไม่กี่เดือน มูลค่าทรัพย์สินของซาโตชิเพิ่มขึ้นอีกราว *1.62 หมื่นล้านดอลลาร์* (ประมาณ 22.24 ล้านล้านวอน) ในเวลาอันสั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับมหาเศรษฐีคนอื่น ซาโตชิเป็นกรณีที่แตกต่าง เนื่องจากทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ในรูปแบบ *ดิจิทัลและนิ่งสนิท* ไม่มีการขายหรือเคลื่อนไหวใด ๆ เลย ซึ่งเน้นย้ำถึงการที่เขายังคง *ปกปิดตัวตน* อย่างมิดชิด และทรัพย์สินของเขายังคงมี *นัยสำคัญทางสัญลักษณ์* อย่างมากในตลาดคริปโต

หลังจากเวลาผ่านมาแล้วถึง 16 ปีนับตั้งแต่เปิดตัวบิตคอยน์ โลกก็ยังไม่สามารถระบุตัวจริงของซาโตชิได้ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ *ลึกลับที่สุดในโลกคริปโต* และในอุตสาหกรรมยังมี ‘*ความคิดเห็น*’ มากมายว่า หากวันใดวันหนึ่งซาโตชิเริ่มเคลื่อนย้ายเหรียญเหล่านี้ อาจส่งผลสะเทือนต่อทั้งตลาดอย่างมหาศาล