สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังให้ความสำคัญกับคดีความเกี่ยวกับคริปโตที่มี ‘เส้นตาย’ ใกล้เข้ามา ส่งผลให้การดำเนินคดีกับ ‘ริปเปิล(XRP)’ และ ‘คราเคน’ ยังคงดำเนินต่อไป ตามรายงานของนักข่าวเอลีเนอร์ เทอร์เรตต์จาก Fox Business
ตามข้อมูลของเทอร์เรตต์ วันนัดพิจารณาคดีครั้งต่อไปของริปเปิลคือ 16 เมษายน ขณะที่คราเคนมีกำหนดในวันที่ 31 มีนาคม ส่วนคดีความของ ‘คอยน์เบส’ และ ‘ไบแนนซ์’ นั้นยังมีเวลาอีกนานกว่าจะถึงกำหนด จึงเป็นไปได้ว่า SEC พยายามจัดการคดีตามลำดับความสำคัญ โดยเน้นไปที่คดีที่มีกำหนดพิจารณาก่อน
ในแวดวงอุตสาหกรรม มีการคาดการณ์ว่า SEC กำลังยื้อเวลาเพื่อรอให้กระบวนการแต่งตั้ง ‘พอล แอตกินส์’ ซึ่งเป็นตัวเลือกของประธานาธิบดีทรัมป์สำหรับตำแหน่งประธาน SEC เสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ อาจมีการเตรียมความพร้อมภายใน SEC ผ่านทีมงานที่ทำหน้าที่ดูแลด้านกฎระเบียบคริปโต และกลุ่มที่ปรึกษาประธานาธิบดีเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อปิดช่องว่างด้านกฎหมาย
ในยุคของรัฐบาลโจ ไบเดน SEC และคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) ได้ดำเนินคดีทางกฎหมายมากกว่า 100 คดีที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ในปี 2023 SEC กล่าวหา ‘คราเคน’ ว่าดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับอนุญาต และยังมีการฟ้องร้อง ‘คอยน์เบส’ ในข้อหาเลี่ยงการลงทะเบียนเป็นโบรกเกอร์และตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่ริปเปิลต้องต่อสู้กับคดีเกี่ยวกับการขายโทเค็น XRP อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2020
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์มีนโยบายสนับสนุนคริปโต และเคยกล่าวว่าต้องการเปลี่ยน ‘สหรัฐฯ ให้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมคริปโต’ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเสนอชื่อพอล แอตกินส์ขึ้นดำรงตำแหน่งประธาน SEC และมีแนวโน้มว่า SEC อาจชะลอการดำเนินคดีต่อบริษัทคริปโตลง
ความเปลี่ยนแปลงเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเมื่อวันที่ 30 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ 10 หลังจากทรัมป์เริ่มวาระที่สอง ‘คราเคน’ สามารถกลับมาให้บริการ Staking ในสหรัฐฯ ได้อีกครั้งหลังจากถูกสั่งห้ามไปเป็นเวลาสองปี นักวิเคราะห์กำลังจับตาดูว่านโยบายใหม่ของ SEC ภายใต้ทีมบริหารของทรัมป์จะเอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้นหรือไม่
ความคิดเห็น 0