ทรัมป์เปิดทางบัญชีเกษียณ 401(k) ลงทุนคริปโต จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่บนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

สหรัฐฯ ขยับนโยบายสำคัญเกี่ยวกับคริปโต เมื่อ *ทรัมป์* ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเปิดทางให้ *บัญชีเกษียณอายุแบบ 401(k)* สามารถลงทุนใน ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ ได้ สร้างกระแสตอบรับหลากหลายจากภาคอุตสาหกรรม ซึ่งทั้ง ‘คาดหวัง’ และ ‘กังวล’ ไปพร้อมกัน

ตามคำสั่งดังกล่าว กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้รับมอบหมายให้ทบทวนข้อจำกัดในการนำ ‘คริปโตเคอร์เรนซี’, กองทุนส่วนบุคคล, และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ เข้ามาไว้ในแผนเกษียณอายุแบบ *Defined Contribution* อย่าง 401(k) หากดำเนินการจริง จะเป็นการเปิดประตูให้สินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเข้าสู่พอร์ตการลงทุนของแรงงานอเมริกันจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการลงทุนในสินทรัพย์คริปโตอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อมูลจากสมาคมบริษัทลงทุนสหรัฐฯ และธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่า ณ ไตรมาสแรกของปี 2025 สินทรัพย์เกษียณทั้งหมดในประเทศจะมีมูลค่ารวมประมาณ 43.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,033 ล้านล้านบาท) โดยมีสินทรัพย์ในแผนแบบ Defined Contribution อยู่ที่ 12 ล้านล้านดอลลาร์ และในนั้น *บัญชี 401(k)* ครองสัดส่วนถึง 8.7 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,209 ล้านล้านบาท) หากมีเพียง *ส่วนเล็กๆ* ไหลเข้าสู่ตลาดคริปโต ก็อาจเปลี่ยนทิศทางของตลาดในระดับโครงสร้างได้

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า คำสั่งของทรัมป์อาจช่วยเสริมความเชื่อมั่นใน *บิตคอยน์(BTC)*, *อีเธอเรียม(ETH)* และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ให้แข็งแกร่งขึ้นในสายตานักลงทุนรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของราคาและประเด็นการคุ้มครองผู้ลงทุนยังคงเป็นประเด็นที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยหลายฝ่ายเรียกร้องให้กำหนดแนวทางการดำเนินการที่รัดกุมและมีความชัดเจน

*ความคิดเห็น*: นโยบายนี้สะท้อนแนวทางของทรัมป์ในการ *ลดกฎระเบียบ* และเพิ่ม *ความยืดหยุ่นเชิงนโยบาย* ซึ่งอาจกลายเป็นไพ่ใบสำคัญในสมรภูมิเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะมาถึง ท่ามกลางกระแสผลักดันให้คริปโตได้รับการยอมรับในระบบเศรษฐกิจกระแสหลัก การดำเนินนโยบายที่มีประสิทธิภาพ และความเข้าใจของประชาชนต่อสินทรัพย์ดิจิทัล อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ชี้ชะตาทางนโยบายในระยะยาว